ข่าวแจ้งตลาดหลักทรัพย์
แจ้งมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2547
ที่ 1600 / 055 / 2547
29 เมษายน 2547
เรื่อง มติที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2547
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สำเนาเรียน ผู้อำนวยการฝ่ายจดทะเบียนหลักทรัพย์
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ตามที่บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ได้มีการประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2547
ในวันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน 2547 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมใหญ่ สำนักงานใหญ่บริษัท บางจากฯ
(มหาชน) เลขที่ 210 ถนนสุขุมวิท 64 เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร นั้น
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2547 มีมติในวาระต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. รับรองรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นวิสามัญ ครั้งที่1/2546 ประชุมเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2546
2. รับทราบรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในรอบปี 2546
3. อนุมัติงบดุลและบัญชีกำไรขาดทุนสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2546 และรายงานของ
ผู้สอบบัญชี
4. อนุมัติไม่จัดสรรกำไรและไม่จ่ายเงินปันผล จากผลการดำเนินงานในรอบปี 2546
5. อนุมัติเลือกตั้งกรรมการที่ต้องออกตามวาระให้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการต่อไปอีกวาระหนึ่ง
จำนวน 3 ท่าน ดังนี้
1) นายพิชัย ชุณหวชิร
2) นายนิพนธ์ สุรพงษ์รักเจริญ (กรรมการอิสระ)
3) นายอนุสรณ์ ธรรมใจ (กรรมการอิสระ)
6. อนุมัติค่าตอบแทนกรรมการ ดังต่อไปนี้
1. ค่าตอบแทนรายเดือนและค่าเบี้ยประชุม
1.1 คณะกรรมการบริษัท
- ค่าตอบแทนรายเดือน เดือนละ 10,000 บาท/ท่าน
- เบี้ยประชุม ครั้งละ 20,000 บาท/ท่าน (เฉพาะกรรมการที่เข้าประชุม)
1.2 คณะกรรมการชุดย่อย ซึ่งคณะกรรมการบริษัทแต่งตั้งขึ้น
1) คณะกรรมการตรวจสอบ
- ค่าตอบแทนรายเดือน เดือนละ 10,000 บาท/ท่าน
- เบี้ยประชุม ครั้งละ 5,000 บาท/ท่าน (เฉพาะกรรมการที่เข้าประชุม)
2) คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน
- ค่าตอบแทนรายเดือน ไม่มี
- เบี้ยประชุม ครั้งละ 10,000 บาท/ท่าน (เฉพาะกรรมการที่เข้าประชุม)
3) คณะกรรมการชุดย่อยอื่นที่คณะกรรมการบริษัทอาจแต่งตั้งในภายหลัง
การกำหนดค่าตอบแทนรายเดือนและค่าเบี้ยประชุมให้อยู่ในดุลยพินิจของ
คณะกรรมการบริษัท โดยพิจารณาตามความเหมาะสม และสอดคล้องกับภาระ
หน้าที่ความรับผิดชอบ
ทั้งนี้ ประธานกรรมการบริษัท และประธานคณะกรรมการชุดย่อย จะได้รับค่าตอบแทนรายเดือน
และค่าเบี้ยประชุมสูงกว่ากรรมการในอัตราร้อยละ 25 รองประธานกรรมการบริษัทจะได้
รับค่าตอบแทนรายเดือนและค่าเบี้ยประชุมสูงกว่ากรรมการในอัตราร้อยละ 12.5
2. เงินโบนัสกรรมการ
กำหนดค่าตอบแทนที่เป็นเงินโบนัสคณะกรรมการสำหรับผลการดำเนินงานปี 2547
เป็นต้นไป ให้จ่ายร้อยละ 1.5 ของกำไรสุทธิ แต่ไม่เกิน 9,000,000 บาท/ปี สำหรับกรรมการ
ทั้งคณะ ทั้งนี้ประธานกรรมการและรองประธานกรรมการ จะได้รับค่าตอบแทนที่เป็นเงินโบนัสสูง
กว่ากรรมการในอัตราร้อยละ 25 และ 12.5 ตามลำดับ
7. แต่งตั้งนางเกษรี ณรงค์เดช ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ทะเบียนเลขที่ 76 จากสำนักงาน
เอ. เอ็ม. ที. แอสโซซิเอท เป็นผู้สอบบัญชีของบริษัทฯ สำหรับปี 2547 และกำหนด
ค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีปีละ 1,180,000 บาท
8. อนุมัติการลดทุน การยกเลิกใบสำคัญแสดงสิทธิ การชดเชยผลขาดทุนสะสม อันสืบเนื่องจาก
การปรับโครงสร้างทุนของบริษัทฯ ตามวาระดังต่อไปนี้
8.1 อนุมัติให้ยกเลิกการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ของ
บริษัทฯ จำนวน 260,000,000 หน่วย
8.2 อนุมัติให้ลดทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 1,682,040,940 บาท เป็น 1,032,761,220
บาท โดยวิธีการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังมิได้นำออกจำหน่ายจำนวน 649,279,720 หุ้น
คงเหลือหุ้นจำนวน 1,032,761,220 หุ้น โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ก. หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ยังมิได้นำออกจำหน่าย จำนวน 69,000,000 หุ้น ที่จัดสรรไว้
สำหรับการเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป และ/หรือผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจง
และ/หรือผู้ลงทุนประเภทสถาบัน ทั้งในประเทศและ/หรือต่างประเทศ
ข. หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จัดสรรไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพของหุ้นกู้แปลงสภาพ
ในส่วนที่เกินจากจำนวนหุ้นสามัญเพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพซึ่งคำนวณ
ด้วยอัตราการแปลงสภาพตามข้อกำหนดว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของผู้ออกหุ้นกู้
และผู้ถือหุ้นกู้แปลงสภาพ จำนวน 320,279,720 หุ้น
ค. หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จัดสรรไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น
ของบริษัทฯ จำนวน 260,000,000 หุ้น ตามที่อนุมัติให้ยกเลิกการออกและเสนอ
ขายในระเบียบวาระที่ 8.1 ข้างต้น
8.3 อนุมัติแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทฯ ข้อ 4 เพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุน
จดทะเบียนในระเบียบวาระที่ 8.2
8.4 อนุมัติการลดทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วของบริษัทฯ จากทุนจดทะเบียน
1,032,761,220 บาท เป็น 843,143,461 บาท และทุนชำระแล้วจาก 753,040,940
บาท เป็น 563,423,181 บาท โดยการลดหุ้นจำนวน 189,617,759 หุ้น ที่บริษัท
สยามดีอาร์ จำกัด ถืออยู่ ทั้งนี้เพื่อให้จำนวนหุ้นของบริษัทฯ ที่ บริษัท สยามดีอาร์ จำกัด
ถืออยู่ สอดคล้องกับจำนวน "ใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหุ้นสามัญของ บริษัท
บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)" ที่ออกและเสนอขายโดย บริษัท สยามดีอาร์
จำกัด โดยในการลดทุนดังกล่าว บริษัท สยามดีอาร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นที่ถูกลด
จำนวนหุ้นลง ได้ยินยอมให้บริษัทฯ ลดทุนโดยลดหุ้นจำนวน 189,617,759 หุ้น ที่ถือ
อยู่ได้ โดยไม่รับเงินคืนทุน
พร้อมทั้งอนุมัติให้โอนผลจากการลดทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วจำนวน
189,617,759 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท เป็นจำนวนเงิน 189,617,759 บาท ไปยังบัญชี
ส่วนเกินทุนจากการลดทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว
8.5 อนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทฯ ข้อ 4 เพื่อให้สอดคล้องกับการ
ลดทุนจดทะเบียนในระเบียบวาระที่ 8.4
8.6 อนุมัติให้โอนส่วนเกินทุนจากการขายหุ้นสูงกว่ามูลค่าจำนวน 2,389,126,110 บาท เพื่อ
มาชดเชยผลขาดทุนสะสมโดยเมื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมดังกล่าวแล้ว จะมีผลให้ยอด
ขาดทุนสะสม ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2546 จำนวน 2,389,126,110 บาท หมดไป
8.7 อนุมัติให้ยกเลิกการออกและเสนอขายหุ้นกู้ในวงเงิน 7,000 ล้านบาท
9.อนุมัติโครงการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน
ของบริษัท บางจากฯ (มหาชน) และบริษัท บางจากกรีนเนท จำกัด (ESOP) ดังต่อไปนี้
9.1 อนุมัติให้ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน
24,000,000 หน่วย ให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร พนักงานของบริษัท บางจากฯ (มหาชน)
และบริษัท บางจากกรีนเนท จำกัด และผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์ รายละเอียดตามที่
คณะกรรมการเสนอ
ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการหรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการเป็นผู้มีอำนาจใน
การพิจารณากำหนดและ/หรือเปลี่ยนแปลงรายละเอียดและเงื่อนไขที่เกี่ยวกับการเสนอ
ขาย และการจัดสรร รวมทั้งการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานคณะกรรมการ
กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และหน่วย
งานอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ
9.2 อนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ ขึ้นอีกจำนวน 24,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียน
843,143,461 บาท เป็น 867,143,461 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน
24,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดง
สิทธิที่จัดสรรให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร พนักงานของบริษัท บางจากฯ (มหาชน) และ
บริษัท บางจากกรีนเนท จำกัด และผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์ ตามระเบียบวาระที่ 9.1
9.3 อนุมัติการแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทฯ ข้อ 4 ให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนตาม
ระเบียบวาระที่ 9.2
10. อนุมัติแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทฯ ข้อ 3 โดยแก้ไขวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ
ข้อ 12 ข้อ 13 และ ข้อ 20 และเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ ข้อ 21 ดังนี้
ข้อ 12 ดำเนินการค้นคว้า วิจัย รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกิจการทางด้านพลังงาน อุตสาหกรรม
เกษตรกรรม และพาณิชย์กรรม เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจการของบริษัท
หรือเพิ่มพูนความรู้ความชำนาญความเชี่ยวชาญในด้านวิชาการและเทคโนโลยี รวม
ทั้งดำเนินการขาย และ/หรือให้บริการดังกล่าวแก่บุคคลทั่วไป
ข้อ 13 ดำเนินประกอบกิจการรับเป็นที่ปรึกษา และให้คำแนะนำเกี่ยวกับธุรกิจใดๆ และ
ปัญหาทางด้านการบริหารงานอุตสาหกรรม พาณิชย์กรรม รวมทั้งปัญหาการผลิต
การตลาด และเทคนิคเกี่ยวกับอุตสาหกรรมต่างๆ และจัดทำการศึกษาความเป็นไปได้
การออกแบบ การออกใบรับรองมาตรฐานทุกด้าน อาทิ คุณสมบัติน้ำมันเชื้อเพลิง
สิ่งแวดล้อม ชีวอนามัย ทั้งนี้ รวมถึงการประกอบกิจการใดๆ และ/หรือสนับสนุน
กิจการใดๆ เกี่ยวกับพลังงาน การอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม
ข้อ 20 การรับจำนองทรัพย์สิน เพื่อเป็นประกันการให้การสนับสนุนกิจการซึ่งเกี่ยวเนื่องกับ
ธุรกิจปิโตรเลียม โดยการรับจำนองที่ดิน อาคาร ตลอดจนสิ่งปลูกสร้างและเครื่อง
อุปกรณ์อย่างอื่นที่บริษัทได้ให้การสนับสนุนค่าก่อสร้างสถานีบริการน้ำมัน แก่
ผู้ประกอบการ เป็นการประกันการผ่อนชำระหนี้ หรือโดยการรับจำนองทรัพย์สินที่
ใช้ในกิจการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นประกันการผ่อนชำระหนี้ค่าบริการขนส่งน้ำมันที่
บริษัทได้จ่ายล่วงหน้าไป การรับจำนองทรัพย์สินเพื่อเป็นประกันการขายสินค้า ทั้งนี้
โดยที่มิใช่การกระทำในลักษณะที่เป็นทางการค้าปกติ และมิใช่เป็นการดำเนินกิจการ
เครดิตฟองซิเอร์
ข้อ 21 ประกอบกิจการให้คำปรึกษา การฝึกอบรม การสัมมนา การให้ใช้หรือให้เช่าสถานที่
การให้บริการระบบสื่อสาร คอมพิวเตอร์และสารสนเทศ รับจัดการและดำเนินการ
เกี่ยวกับกิจการปิโตรเลียมและ/หรือปิโตรเคมี อาทิ การปฏิบัติการ (operation)
การบำรุงรักษาเครื่องจักร อุปกรณ์ โรงไฟฟ้า และระบบไฟฟ้า การป้องกันและควบคุม
ความปลอดภัย โรงงาน คลังปิโตรเลียม ระบบท่อผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
11. พิจารณาอนุมัติแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของบริษัทฯ ข้อ 18 ข้อ 21 ข้อ 22 ข้อ 28 และข้อ 42
เป็นดังนี้
ข้อ 18 คณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการจำนวนไม่น้อยกว่า 5 คน และไม่มากกว่า 11 คน
โดยมีกรรมการที่มีความเป็นอิสระไม่น้อยกว่า 3 คน และกรรมการไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง
ของจำนวนกรรมการทั้งหมดต้องมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร โดยกรรมการต้องมี
คุณสมบัติตามที่กฎหมายและข้อบังคับนี้กำหนด ทั้งนี้กรรมการบริษัทอย่างน้อย 1 คน
ต้องเป็นผู้มีความรู้ด้านบัญชีและการเงิน
กรรมการคนหนึ่งคนใดลงลายมือชื่อร่วมกับประธานกรรมการรวมเป็นสองคนหรือ
กรรมการคนหนึ่งคนใดลงลายมือชื่อร่วมกับกรรมการผู้จัดการใหญ่รวมเป็นสองคน
และประทับตราสำคัญของบริษัท มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท
ให้คณะกรรมการมีอำนาจกำหนดชื่อผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท โดยสอดคล้อง
กับข้อบังคับบริษัท
ข้อ 21 นอกจากการพ้นตำแหน่งตามวาระแล้ว กรรมการพ้นจากตำแหน่งเมื่อ
(1) ตาย
(2) ลาออก
(3) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตาม มาตรา 68 แห่งพระราชบัญญัติ
บริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.2535
(4) ที่ประชุมผู้ถือหุ้นลงมติให้ออกตามมาตรา 76 แห่งพระราชบัญญัติบริษัท
มหาชนจำกัด พ.ศ.2535
(5) ศาลมีคำสั่งให้ออก
ข้อ 22 ให้คณะกรรมการเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานกรรมการ ในกรณีที่คณะกรรมการ
พิจารณาเห็นสมควรจะเลือกกรรมการคนหนึ่งหรือหลายคนเป็นรองประธาน
กรรมการก็ได้ และให้คณะกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งกรรมการหรือบุคคลใดดำรง
ตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ของบริษัทและให้มีอำนาจถอดถอนบุคคลดังกล่าวจากการ
ดำรงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ได้ด้วย ในกรณีที่ผู้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ เป็น
กรรมการบริษัทให้เรียกว่ากรรมการผู้จัดการใหญ่ ทั้งนี้ให้ผู้จัดการใหญ่เป็นเลขานุการ
คณะกรรมการโดยตำแหน่ง
ผู้จัดการใหญ่มีอำนาจ และหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารบริษัทตามที่คณะกรรมการ
จะมอบหมาย และจะต้องบริหารบริษัทตามแผนงานหรืองบประมาณที่ได้รับอนุมัติ
จากคณะกรรมการอย่างเคร่งครัด ซื่อสัตย์สุจริต และระมัดระวังรักษาผลประโยชน์
ของบริษัทและผู้ถือหุ้นอย่างดีที่สุด อำนาจหน้าที่ของผู้จัดการใหญ่ให้รวมถึงเรื่อง
หรือกิจการต่างๆ ดังต่อไปนี้ด้วย
(1) ดำเนินกิจการและหรือบริหารงานประจำวันของบริษัท
(2) บรรจุ แต่งตั้ง ถอดถอน โยกย้าย เลื่อน ลด ตัดเงินเดือน หรือค่าจ้างลงโทษทาง
วินัยพนักงานและลูกจ้าง ตลอดจนให้พนักงานและลูกจ้างออกจากตำแหน่งตาม
ระเบียบที่คณะกรรมการกำหนดแต่ถ้าเป็นพนักงานในระดับที่ต่อจากผู้จัดการ
ใหญ่ลงมา 2 ระดับจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการก่อน
(3) ดำเนินการให้มีการจัดทำและส่งมอบนโยบายทางธุรกิจของบริษัทรวมถึงแผนงาน
และงบประมาณต่อคณะกรรมการ เพื่อขออนุมัติ และมีหน้าที่รายงานความก้าวหน้า
ตามแผนงาน และงบประมาณที่ได้รับอนุมัติดังกล่าวต่อคณะกรรมการในทุกๆ 3 เดือน
(4) ดำเนินการและหรือปฏิบัติงานให้เป็นไปตามนโยบาย แผนงานและงบประมาณ
ที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ
ข้อ 28 เพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของบริษัท คณะกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งบุคคลขึ้น
คณะหนึ่งหรือหลายคณะหรือแต่งตั้งบุคคลหนึ่งบุคคลใดจากกรรมการหรือบุคคลอื่นใด
ตามที่เห็นสมควรเพื่อดำเนินกิจการอย่างใดอย่างหนึ่งของบริษัท
คณะกรรมการต้องจัดให้มีคณะกรรมการตรวจสอบ โดยแต่งตั้งกรรมการอิสระ
อย่างน้อย 3 คน เป็นกรรมการตรวจสอบ และกรรมการตรวจสอบอย่างน้อย 1 คน
ต้องเป็นผู้มีความรู้ด้านบัญชีและการเงิน โดยมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายหลักทรัพย์และ
ตลาดหลักทรัพย์กำหนด เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบและกำกับดูแลการดำเนินงานของบริษัท
ดูแลรายงานทางการเงิน ระบบควบคุมภายใน การคัดเลือกผู้ตรวจสอบบัญชี
การพิจารณาข้อขัดแย้งทางผลประโยชน์ และจัดทำรายงานการกำกับดูแลกิจการของ
คณะกรรมการตรวจสอบ ตลอดจนปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดและ/
หรือที่คณะกรรมการบริษัทมอบหมาย
คณะกรรมการควรจัดให้มีคณะกรรมการสรรหา โดยแต่งตั้งจากกรรมการบริษัท
อย่างน้อย 3 คน เป็นกรรมการสรรหา และกรรมการสรรหาอย่างน้อย 1 คน ต้อง
เป็นกรรมการอิสระ เพื่อทำหน้าที่คัดเลือกบุคคลที่สมควรได้รับการเสนอรายชื่อเป็น
กรรมการใหม่ หรือสรรหาผู้จัดการใหญ่ โดยให้มีการกำหนดวิธีการสรรหา
คณะกรรมการอย่างมีหลักเกณฑ์ และโปร่งใส
คณะกรรมการควรจัดให้มีคณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทน โดยแต่งตั้งจาก
กรรมการบริษัทอย่างน้อย 3 คน เป็นคณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทน และ
กรรมการกำหนดค่าตอบแทนอย่างน้อย 1 คนต้องเป็นกรรมการอิสระเพื่อทำหน้าที่
พิจารณาแนวทางการกำหนดค่าตอบแทนให้แก่กรรมการ และผู้จัดการใหญ่ โดยให้
มีการกำหนดหลักเกณฑ์หรือวิธีการการกำหนดค่าตอบแทนให้แก่กรรมการที่เป็น
ธรรมและสมเหตุสมผล
ในกรณีที่คณะกรรมการเห็นสมควรอาจพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาและ
คณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทนให้เป็นชุดเดียวกันได้ โดยเรียกว่าคณะกรรมการ
สรรหาและกำหนดค่าตอบแทน
ข้อ 42 ตราของบริษัทมีดังประทับไว้นี้
(รูปตราประทับ)
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายวัชรพงศ์ ใสสุก)
ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักแผนกิจการ
สำนักแผนกิจการ
โทร 0-2335-4583-4