ข่าวแจ้งตลาดหลักทรัพย์
นำส่งงบการเงินหลังสอบทานและชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาส1/2546
ที่ 1600 / 078 /2546
16 พฤษภาคม 2546
เรื่อง นำส่งงบการเงินหลังสอบทานและชี้แจงผลการดำเนินงาน ไตรมาสหนึ่ง
ปี 2546
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. งบการเงินหลังสอบทาน ไตรมาสหนึ่ง ฉบับภาษาไทย 1 ฉบับ
2. งบการเงินหลังสอบทาน ไตรมาสหนึ่ง ฉบับภาษาอังกฤษ 1 ฉบับ
ตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การจัดทำและส่ง
งบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัท
จดทะเบียน พ.ศ. 2544 ที่กำหนดให้บริษัท จดทะเบียนจัดทำและส่งงบการเงิน
รายไตรมาสที่ผู้สอบบัญชีได้สอบทานแล้ว โดยให้จัดส่งภายใน 45 วันนับแต่วัน
สุดท้ายของแต่ละไตรมาส นั้น
บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)ใคร่ขอนำส่งงบการเงิน
หลังสอบทานโดยผู้สอบบัญชี สำหรับไตรมาสหนึ่ง สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม
2546 และขอชี้แจงผลการดำเนินงานเพิ่มเติม เนื่องจากมีผลกำไรขาดทุน
เปลี่ยนแปลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนเกินร้อยละ 20 ดังนี้
ผลการดำเนินงานไตรมาสหนึ่งปี 2546 บริษัทฯ มีรายได้รวม 14,474 ล้านบาท
โดยมีผลกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคา (EBITDA)+952 ล้านบาท
มีกำไรจากการดำเนินงาน (ไม่รวมกำไร/ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน) 398
ล้านบาท และมีผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 25 ล้านบาท ทำให้มีกำไรสุทธิ
รวม 422 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนถึง
116 ล้านบาท (ไตรมาสที่หนึ่งปี 2545 มีผลกำไรสุทธิ 307 ล้านบาท)
ทั้งนี้เป็นผลมาจาก
1. ค่าการกลั่น ในช่วงไตรมาสนี้ ค่าการกลั่นได้ปรับตัวดีขึ้น โดยส่วนหนึ่ง
เป็นผลมาจากการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก
การยืดเยื้อของการประท้วงในประเทศเวเนซุเอล่าและความกังวลต่อ
ภาวะสงครามระหว่างสหรัฐฯ และอิรัก
2. ด้านการจำหน่าย บริษัทฯ มียอดจำหน่ายผ่านสถานีบริการเฉลี่ย
ในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน
ซึ่งเป็นผลมาจากการออกผลิตภัณฑ์น้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ ภายใต้ชื่อ
"POWER D" ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากผู้ใช้รถ
นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ทำการปรับปรุงภาพลักษณ์และการบริการของ
สถานีบริการน้ำมันและร้านสะดวกซื้อ ให้เป็นที่พอใจสูงสุดแก่ผู้บริโภค
3. ด้านการผลิต บริษัทฯ ได้ทำการหยุดซ่อมบำรุงหน่วยกลั่นที่ 2 ชั่วคราว
ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคม จึงทำให้ปริมาณการกลั่น
เฉลี่ยทั้งไตรมาสลดลง แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้นำน้ำมันคงคลังมา
จำหน่ายเพื่อลดความเสี่ยงต่อความผันผวนของราคา และทำการจัดหา
ผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมทดแทนกำลังกลั่นที่ลดลงเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาด
อีกทั้งยังคงขยายความร่วมมือกับบริษัทน้ำมันอื่น ในการลดต้นทุนและ
การเพิ่มรายได้ โดยมีปริมาณน้ำมันที่ถูกส่งไปเพิ่มมูลค่าที่โรงกลั่นอื่น
เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 143 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
4. ด้านการเงิน จากการที่บริษัทฯ ได้ทำการ Refinance เงินกู้ใน
ประเทศที่ครบกำหนดชำระในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดลดลง
ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทลดลงเฉลี่ยร้อยละ 0.3 อีกทั้ง
บริษัทฯ ยังได้รับการต่ออายุเงินกู้ระยะสั้นภายใต้ EURO COMMERCIAL
PAPER PROGRAMME (ECP) จากกระทรวงการคลังต่อไปอีกเป็นระยะ
เวลา 6 เดือน ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 31 กรกฎาคม 2546 เพื่อ
BRIDGE FINANCING ช่วงสั้นระหว่างการจัดหาเงินกู้ระยะยาวสกุลเงินบาท
มาทดแทน ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 1.5 ต่อปี เป็นผลให้บริษัทฯ
สามารถลดดอกเบี้ยเงินกู้ในส่วนนี้ได้ถึงปีละประมาณ 85 ล้านบาท
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์)
ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักแผนกิจการ
สำนักแผนกิจการ
โทร. 0-2335-4583