ข่าวแจ้งตลาดหลักทรัพย์
คณะกรรมการบริษัทยืนยันผลการดำเนินงานดีและระบบบัญชีถูกต้อง
ที่ 1600 / 056 / 2542
29 มิถุนายน 2542
เรื่อง คณะกรรมการบริษัทยืนยันบริษัท บางจากฯ มีผลการดำเนินงานดี และระบบบัญชีถูกต้อง
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2542 คณะกรรมการบริษัท บางจากฯ (มหาชน)
โดยมีประธานคณะกรรมการตรวจสอบประจำบริษัทฯ นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา
และประธานกรรมการบริษัทนายสมชัย ฤชุพันธุ์ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
ณ. โรงกลั่นน้ำมันบริษัท บางจากฯ มีสาระดังนี้
คณะกรรมการบริษัทฯ ได้ตรวจสอบเรื่องตามข่าวที่ปรากฏในสื่อต่างๆ
ปรากฏว่า บริษัท บางจากฯ มีฐานะการเงินแข็งแรง และมีผลการดำเนินงานที่ดี
เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นในกิจการเดียวกัน คณะกรรมการฯ มั่นใจว่าระบบบัญชีของบริษัทฯ
มีมาตรฐานสูงครบถ้วนตามสากล และได้รับการตรวจสอบและรับรองจาก
สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดยละเอียดทุกประการ นอกจากนั้น
รายการระหว่างบริษัทฯ กับบริษัทร่วมทุนเป็นไปตามสภาพข้อตกลงการค้าปกติทั่วไป
ไม่มีลักษณะถ่ายเทผลประโยชน์ระหว่างกันบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายเงินบริจาคระดับต่ำและ
เป็นการบริจาคแก่สาธารณะตามที่บริษัทธุรกิจปฏิบัติกันโดยทั่วไป สำหรับเงินกู้
ต่างประเทศประจำปี 150 ล้านเหรียญ ได้อยู่ในบัญชีเงินเหรียญตลอดเวลาโดยได้รับอนุญาต
จากธนาคารแห่งประเทศไทย เงินกู้นี้ใช้ชำระค่าน้ำมันดิบให้ต่างประเทศ
ไม่ปรากฏว่ามีการนำเงินกู้ต่างประเทศ 150 ล้านเหรียญ ไปฝากเป็นเงินบาท
เพื่อหากำไรแต่อย่างใดทั้งสิ้น
ผลการตรวจสอบดังกล่าวดำเนินการโดยคณะกรรมการตรวจสอบประจำบริษัทฯ
ซึ่งแต่งตั้งขึ้นตามข้อกำหนดตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และคณะกรรมการบริษัทฯ
ได้ให้ความเห็นชอบรับรองการตรวจสอบ ดังนี้
1. ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา และงบการเงินปี 2541
คณะกรรมการตรวจสอบฯ ได้พิจารณาผลการดำเนินงานที่ผ่านมา และงบการเงินปี 2541
แล้วมีความเห็นว่างบการเงินดังกล่าวมีความถูกต้องในสาระสำคัญ และพบว่าบริษัท บางจากฯ
มีผลการดำเนินงานที่ดีในระยะที่ผ่านมา มีฐานะการเงินแข็งแรง และมีสภาพคล่องที่ดี
ตั้งแต่ปี 2528 ที่บริษัท บางจากฯ ได้จัดตั้งขึ้นด้วยเงินและทรัพย์สินของรัฐ 2,354 ล้านบาท
จนถึงปี 2541 รัฐได้รับผลตอบแทนแล้วทั้งสิ้น 15,248 ล้านบาท โดยเป็นเงินสดที่จ่ายเป็น
เงินปันผลให้รัฐ 4,116 ล้านบาท จ่ายเป็นภาษีเงินได้จากผลกำไร 3,091 ล้านบาท
และเป็นส่วนของรัฐในหุ้นบริษัทฯ อีก 8,041 ล้านบาท บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิรวม
7,808 ล้านบาทก่อนหักขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนปี 2540 และ
หลังหักขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนมีกำไรสุทธิ 2,615 ล้านบาท
จากการพิจารณาฐานะการเงินของบริษัท บางจากฯ และบริษัทน้ำมันที่มีโรงกลั่นอีก 4 แห่ง
พบว่า บริษัท บางจากฯ ได้รับผลกระทบจากเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนน้อยกว่ามาก
และมีฐานะการเงินที่ดี
ในปี 2541 ซึ่งประเทศยังคงมีวิกฤตการเงินและเศรษฐกิจ บริษัทฯ มีกำไร 59 ล้านบาท
มีฐานะการเงินและสภาพคล่องดีพอควร โดยมีสัดส่วนหนี้สินรวมต่อทุนเท่ากับ 1.7
ซึ่งอยู่ในระดับที่ยอมรับได้และดีกว่าเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆ ในกิจการเดียวกัน
งบการเงินดังกล่าวได้ผ่านการตรวจสอบรับรองโดยผู้สอบบัญชีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน
ซึ่งเป็นผู้สอบบัญชีบริษัทฯ ตามกฎหมายตลอดระยะเวลา 14 ปี ทผ่านมาแล้ว
โดยสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินได้ปฏิบัติงานตรวจสอบตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรอง
ทั่วไป และมีความเห็นว่างบการเงินของบริษัทฯ มีความถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการ
บัญชีที่รับรองทั่วไป
2. ระบบบัญชีบริษัทฯ และระบบตรวจสอบบัญชีและตรวจกิจการของบริษัทฯ
คณะกรรมการตรวจสอบฯ มีความเห็นว่าระบบบัญชีของบริษัทฯ และระบบควบคุม
ภายในรวมทั้งการตรวจสอบภายในเป็นระบบที่มีมาตรฐานสูงครบถ้วนตามสากล และ
ทั้งหมดได้รับการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีฯ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน โดยละเอียด
ทุกประการ ดังนี้
บริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ
ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดมาตรฐานบัญชีของสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย
จำนวน 35 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบริษัทฯ และได้ปฏิบัติตามมาตรฐานสากล (มาตรฐานของ
International Accounting Standards Committee และมาตรฐานของ American
Institute of Certified Public Accountants หรือ Financial Accounting
Standards Board) นอกจากนี้โครงสร้างบัญชีและการจัดทำรายงานงบการเงินของบริษัทฯ
ก็ปฏิบัติด้วยมาตรฐานเช่นเดียวกับบริษัทขนาดใหญ่ทั่วไป รวมทั้งบริษัทน้ำมันต่างประเทศในประเทศไทยด้วย
การตรวจสอบบัญชีของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินซึ่งเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีของ
หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจทั้งประเทศนั้น สตง.ส่งเจ้าหน้าที่มาปฏิบัติงานประจำที่บริษัทฯ 6 คน
ทำงานเต็มเวลาทุกวัน และมีการตรวจสอบที่มีมาตรฐานที่ครอบคลุมกว้างกว่า และละเอียดกว่าบริษัทเอก
ชนทั่วไป
3. การลงทุนในบริษัทร่วมทุน รายการระหว่างบริษัทกับบริษัทร่วมทุน
คณะกรรมการตรวจสอบฯ เห็นว่า การบันทึกบัญชีผลการดำเนินการของบริษัทร่วมทุกแห่ง
เป็นไปตามมาตรฐานของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นอกจากนี้ รายการระหว่าง
บริษัทกับบริษัทร่วมทุนเป็นไปตามสภาพข้อตกลงการค้าปกติทั่วไป ไม่มีลักษณะถ่ายเทผล
ประโยชน์ระหว่างกัน
บริษัทฯ ได้ลงทุนในบริษัทร่วม (กิจการที่บริษัทฯ เป็นผู้ถือหุ้นเกินกว่า 20% แต่ไม่เกิน 50%)
ทั้งหมด 4 แห่ง บริษัทร่วมทุนทั้งหมดเป็นบริษัทขนาดเล็กตั้งขึ้นมาด้วยเงินลงทุนไม่มาก
เพื่อสนับสนุนกิจการบริษัท บางจากฯ ในปี 2541 ของบริษัทร่วมทุกแห่งมีผลกำไรทั้งสิ้น
4. ค่าใช้จ่ายบริจาคสาธารณะและสังคม
คณะกรรมการตรวจสอบฯ เห็นว่า ในปี 2541 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายเงินบริจาค
และเงินสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือองค์กร มูลนิธิ และหน่วยงานสาธารณะอื่นๆ เป็นเงิน
ทั้งสิ้น 1,243,229 บาท ค่าใช้จ่ายดังกล่าวอยู่ในระดับ 0.004% ของรายได้ซึ่งเป็นระดับ
ที่ต่ำ และเป็นการบริจาคแก่สาธารณะตามที่บริษัทธุรกิจปฏิบัติโดยทั่วไป ทั้งหมดเป็น
ค่าใช้จ่ายที่ถูกต้องสมควร
5. เงินกู้ต่างประเทศ
คณะกรรมการตรวจสอบฯ เห็นว่า การบริหารเงินกู้ของบริษัท บางจากฯ มีเหตุมีผลและ
มีการดำเนินการเป็นที่ยอมรับได้ ดังนี้
เงินกู้ต่างประเทศ 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งบริษัทฯ ได้กู้มาเมื่อเดือนมิถุนายน 2541
เป็นการต่อเงินกู้ระยะสั้นประจำปีตามปกติเช่นบริษัทธุรกิจทั่วไป เงินกู้นี้ใช้สำหรับจ่ายค่าน้ำมันดิบ
ซึ่งเป็นเงินเหรียญฯ ให้แก่ผู้ขายน้ำมันดิบในต่างประเทศโดยตรง เงินกู้ดังกล่าวได้เสียดอกเบี้ย
และค่าใช้จ่ายประมาณ 11 ล้านเหรียญฯ เงินกู้ที่กู้มาได้อยู่ในบัญชีเงินเหรียญตลอดเวลา
โดยอยู่ในบัญชีของ Sumitomo Bank A/C no 121-110049-0 และบัญชีของ
Bank of America A/C no 30586-030 โดยได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย และ
ได้ชำระเป็นค่าน้ำมันดิบให้ต่างประเทศโดยผ่านบัญชีของธนาคารทั้งสองรวมเป็นเงิน 150 ล้านเหรียญฯ
ไม่มีรายการของการแลกเป็นเงินบาทหรือนำมาฝากเป็นเงินบาทหากำไรดอกเบี้ยเงินบาทแต่อย่างใด
เมื่อเดือนมิถุนายน 2542 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ต่อเงินกู้ใหม่ (Refinance) เพียง
130 ล้านเหรียญฯ อีก 20 ล้านเหรียญฯ บริษัทฯ ได้ชำระคืนจากเงินรายได้บริษัทฯ เอง
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายระบิล พรพัฒน์กุล)
ผู้จัดการอาวุโสสำนักงานแผนกิจการ
สำนักงานแผนกิจการ
โทร. 301-2842