รายงานผู้สอบบัญชีสำหรับงบการเงินไตรมาสสองประจำปี 2539

เสนอ ผู้ถือหุ้น บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ได้สอบทานงบดุล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2539 และ 2538 และงบ กำไรขาดทุนสำหรับไตรมาสที่สองและงวดหกเดือนสิ้นสุดวันเดียวกันของแต่ละปีของ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ตามมาตรฐานที่กำหนดโดยสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย การสอบทานงบการเงินระหว่างกาลนี้ ส่วนใหญ่ประกอบด้วยการทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบในการ จัดทำงบการเงิน การใช้วิธีวิเคราะห์เปรียบเทียบในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินและการสอบถามเจ้าหน้าที่ ของบริษัทฯ ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องทางการเงินและบัญชี ซึ่งการสอบทานนี้มีขอบเขตจำกัดกว่าการตรวจสอบตาม มาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรองทั่วไปเพื่อแสดงความเห็นต่องบการเงินมาก ดังนั้น สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน จึงไม่อาจแสดงความเห็นต่องบการเงินที่สอบทานได้ จากการสอบทานดังกล่าวข้างต้น สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินไม่พบสิ่งที่เป็นสาระสำคัญซึ่งควรนำมา ปรับปรุงงบการเงินระหว่างกาลนี้ให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป ทั้งนี้ได้พบว่าบริษัทฯ ได้เปลี่ยน นโยบายการบัญชีเกี่ยวกับการรับรู้ผลกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ตามที่กล่าวไว้ ในหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 1 (นางฤดี จิวาลักษณ์) ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (นางสุจิตรา โสมนัส) นักวิชาการตรวจเงินแผ่นดิน วันที่ 5 สิงหาคม 2539 ยังไม่ได้ตรวจสอบ สอบทานแล้ว บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) งบดุล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2539 และ 2538 2539 2538 บาท บาท สินทรัพย์ สินทรัพย์หมุนเวียน ลูกหนี้การค้าและตั๋วเงินรับ 2,216,157,192 2,112,637,166 น้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันคงเหลือ 3,569,279,284 3,005,791,873 สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 9,566,046,290 8,632,751,752 รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 15,351,482,766 13,751,180,791 ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์-สุทธิ 10,289,304,709 10,070,806,566 สินทรัพย์อื่น (หมายเหตุ 2) 2,674,219,628 1,665,056,596 รวมสินทรัพย์ 28,315,007,103 25,487,043,953 ยังไม่ได้ตรวจสอบ สอบทานแล้ว 2539 2538 บาท บาท หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น หนี้สินหมุนเวียน เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมจากธนาคาร 11,959,244,239 7,779,852,487 เจ้าหนี้การค้า 4,755,064,376 4,363,140,632 หนี้สินหมุนเวียนอื่น 1,277,406,885 1,022,872,689 รวมหนี้สินหมุนเวียน 17,991,715,500 13,165,865,808 เงินกู้ยืมระยะยาว 853,846,449 3,394,929,738 หนี้สินอื่น 117,908,669 95,330,353 ส่วนของผู้ถือหุ้น (หมายเหตุ 3) 9,351,536,485 8,830,918,054 รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 28,315,007,103 25,487,043,953 หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้ (ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล) (นายโสภณ สุภาพงษ์) ประธานกรรมการ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ยังไม่ได้ตรวจสอบ สอบทานแล้ว บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) งบกำไรขาดทุน สำหรับไตรมาสที่สองและงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2539 และ 2538 สะสมถึงไตรมาสนี้ ไตรมาสที่สอง งวดหกเดือน 2539 2538 2539 2538 บาท บาท บาท บาท รายได้ รายได้จากการขาย 7,831,631,032 8,506,336,220 16,926,300,225 16,580,234,305 รายได้อื่น 395,660,003 240,209,275 784,999,189 449,413,584 รวมรายได้ 8,227,291,035 8,746,545,495 17,711,299,414 17,029,647,889 ค่าใช้จ่าย ต้นทุนขาย 7,231,791,323 7,967,085,888 15,599,529,871 15,498,770,251 ค่าใช้จ่ายอื่น 581,670,835 482,346,081 1,160,498,950 887,463,533 ภาษีเงินได้ 123,553,487 88,534,702 283,763,404 192,174,931 รวมค่าใช้จ่าย 7,937,015,645 8,537,966,671 17,043,792,225 16,578,408,715 กำไรสุทธิ 290,275,390 208,578,824 667,507,189 451,239,174 กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.56 0.40 1.28 0.86 หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้ ยังไม่ได้ตรวจสอบ สอบทานแล้ว บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หมายเหตุประกอบงบการเงิน สำหรับไตรมาสที่สองและงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2539 1 นโยบายการบัญชี รายการบัญชีที่เป็นเงินตราต่างประเทศปรับมูลค่าเป็นเงินบาทตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่เกิดรายการ ยอดที่ ยังคงค้างอยู่ ณ วันสิ้นงวดจะปรับมูลค่าเป็นเงินบาทตามอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารพาณิชย์ ณ วันเดียวกัน กำไรหรือขาดทุน จากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นถือเป็นรายได้หรือค่าใช้จ่ายในงวดบัญชีทั้งจำนวน ยกเว้นกำไรหรือขาดทุนจากการปรับมูลค่า เงินกู้ ณ วันสิ้นงวดและการปรับมูลค่าตามเงื่อนไขของสัญญาเงินกู้ระยะยาว ซึ่งใช้ในการก่อสร้างทรัพย์สินถือเป็นส่วนหนึ่งของ ต้นทุนงานระหว่างก่อสร้าง ในปีนี้บริษัทฯ ได้เปลี่ยนนโยบายการบัญชีในการรับรู้ผลกำไรหรือขาดทุนที่เกิดจากทั้งสองกรณีเมื่อ งานแล้วเสร็จ จากเดิมซึ่งถือเป็นรายการรอตัดบัญชี โดยแสดงรายการหักจากส่วนของผู้ถือหุ้นในงบดุลและตัดจำหน่ายในแต่ ละปีตามส่วนเฉลี่ยของอายุหนี้ที่เหลือ มาเป็นรายได้หรือค่าใช้จ่ายทั้งจำนวนในงวดบัญชีที่เกิดรายการ โดยเริ่มถือปฏิบัติสำหรับ กำไรหรือขาดทุนที่เกิดขึ้นในงวดบัญชี 2539 เป็นต้นไป ส่วนรายการรอตัดบัญชีซึ่งเป็นยอดยกมาถือปฏิบัติตามวิธีเดิม การเปลี่ยนนโยบายการบัญชีดังกล่าว มีผลให้ไตรมาสที่สองนี้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิสูงขึ้น 6.35 ล้านบาท กำไรสุทธิ ต่อหุ้นสูงขึ้น 0.01 บาท และสำหรับงวดหกเดือนมีกำไรสุทธิสูงขึ้น 23.89 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้นสูงขึ้น 0.05 บาท ส่วนของ ผู้ถือหุ้นต่ำลง 10.24 ล้านบาท และหนี้สินรวมสูงขึ้นด้วยจำนวนเดียวกัน ผลกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดจากการชำระหนี้ในปีใด ถือเป็นรายได้หรือค่าใช้จ่ายในปีนั้น ทั้งจำนวน 2 สินทรัพย์อื่น จำนวน 2,674.22 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงานระหว่างก่อสร้าง 2,011.46 ล้านบาทและมีเงินลงทุนในบริษัท ต่างๆ จำนวน 154.11 ล้านบาท รายละเอียดดังนี้ อัตราการถือหุ้น ล้านบาท ร้อยละ บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด 133.00 16.71 บริษัท บางจากกรีนเนท จำกัด 13.83 49.00 บริษัท บางจากกรีนไลน์ จำกัด 2.23 49.00 บริษัท บางจากเพาเวอร์ จำกัด 5.05 49.99 154.11 ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ ได้มีการบันทึกส่วนแบ่งผลกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วม ซึ่งคำนวณจากผลการดำเนิน งาน ที่ได้รับแจ้งจากบริษัท บางจากกรีนเนท จำกัด บริษัท บางจากกรีนไลน์ จำกัด และบริษัท บางจากเพาเวอร์ จำกัด ตามวิธีส่วนได้เสีย (EQUITY METHOD) จำนวน 2.12 ล้านบาท 0.55 ล้านบาท และ 0.03 ล้านบาท ตามลำดับ ยังไม่ได้ตรวจสอบ สอบทานแล้ว 3 ส่วนของผู้ถือหุ้น 9,351.54 ล้านบาท ประกอบด้วย ล้านบาท ทุนเรือนหุ้น(หุ้นสามัญ 522.04 ล้านหุ้น 5,220.41 มูลค่าหุ้นละ 10 บาท ) กำไรสะสม สำรองตามกฏหมาย 547.59 ยังไม่ได้จัดสรร 1,660.76 2,208.35 ส่วนเกินมูลค่าหุ้น 2,007.95 กำไร(ขาดทุน)จากอัตราแลกเปลี่ยนรอตัดบัญชี (85.17) 9,351.54 เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2538 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการกระจายหุ้นของบริษัทฯ ที่ถือโดยหน่วยงานภาครัฐ เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 31 ( กระทรวงการคลังร้อยละ 6.7 และการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยร้อยละ 24.3 ) โดยจำหน่ายให้แก่ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์และบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยไม่เกินร้อยละ 10 และประชาชนทั่วไป ประมาณร้อยละ 21 ซึ่งจะเป็นผลให้บริษัทฯ พ้นสภาพการเป็นรัฐวิสาหกิจ ส่วนการกำหนดราคาและวิธีการจำหน่ายหุ้น ให้ คณะกรรมการที่ปรึกษาซื้อขายหลักทรัพย์ที่กระทรวงการคลังแต่งตั้งพิจารณาดำเนินการโดยให้ถือหลักการให้รัฐได้รับประโยชน์ สูงสุด 4 เหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในภายหน้า ณ วันสิ้นงวดไตรมาสที่สอง วันที่ 30 มิถุนายน 2539 บริษัทฯ มีภาระผูกพันและหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นภายหน้า ดังนี้ 4.1 ภาระผูกพัน บริษัทฯ มีภาระค้ำประกันโดยธนาคาร เป็นเงิน 194.03 ล้านบาท 4.2 การประเมินภาษีเงินได้ บริษัทฯ ได้รับแจ้งการประเมินภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย สำหรับปี 2530 จำนวน 66.75 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา 4.3 คดีที่ถูกฟ้องร้อง บริษัทฯ ในฐานะผู้เช่าที่ราชพัสดุถูกฟ้องร้องเป็นจำเลยที่ 5 ร่วมกับกระทรวงการคลัง ( จำเลยที่ 1 ) ในข้อหาละเมิด ขับไล่ (ที่ราชพัสดุบริเวณท่าเรือโรงกลั่น ซึ่งบริษัทฯ เช่าจากกระทรวงการคลัง) เรียกค่าเสียหายต่อศาลแพ่งด้วยจำนวนทุนทรัพย์ 1,055 ล้านบาท ซึ่งสำนักกฎหมายของบริษัทให้ความเห็นว่าถึงแม้ผลคดีจะเป็นประการใด บริษัท ฯ ในฐานะผู้เช่าตามสัญญา ย่อมไม่มีภาระรับผิดเกี่ยวกับจำนวนทุนทรัพย์ที่ฟ้องร้องดังกล่าวข้างต้น