ชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2549

ที่ 1000 / 133 / 2549 15 พฤษภาคม 2549 เรื่อง นำส่งงบการเงินสอบทานแล้ว และชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2549 เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. งบการเงินสอบทานแล้วไตรมาส 1 ปี 2549 ฉบับภาษาไทย 1 ฉบับ 2. งบการเงินสอบทานแล้วไตรมาส 1 ปี 2549 ฉบับภาษาอังกฤษ 1 ฉบับ ตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการจัดทำและส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับ ฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน พ.ศ. 2544 ที่กำหนดให้บริษัท จดทะเบียน จัดทำและส่งงบการเงินรายไตรมาสที่ผู้สอบบัญชีได้สอบทานแล้ว โดยให้จัดส่งภายใน 45 วันนับแต่วัน สุดท้ายของแต่ละไตรมาสนั้น บริษัทฯ ใคร่ขอนำส่งงบการเงินสำหรับไตรมาส 1 ปี 2549 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2549 ที่ผู้สอบบัญชี ได้สอบทานแล้ว และขอชี้แจงผลการดำเนินงานเพิ่มเติม ดังนี้ ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2549 บริษัทฯ มีรายได้รวม 26,510 ล้านบาท มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) +1,319 ล้านบาท มีดอกเบี้ยจ่ายสุทธิ (หักลบดอกเบี้ยรับ) 149 ล้านบาท มีค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย 208 ล้านบาท ทำให้มีกำไรก่อนภาษีเงินได้ 898 ล้านบาท เมื่อหักภาษี เงินได้ จำนวน 241 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิ 657 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้นที่ 0.96 บาทต่อหุ้น (เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2548 มีผลกำไรสุทธิ 438 ล้านบาท) ผลการดำเนินงาน ดังกล่าวมีสาเหตุมาจากปัจจัยดังต่อไปนี้ 1) บริษัทฯ มีค่าการกลั่น (ไม่รวมกำไรจากสต๊อกน้ำมัน) 3.31 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาเรล สูงกว่าช่วง เดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ระดับ 1.89 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาเรล โดยบริษัทได้ดำเนินการเลือกประเภทของ น้ำมันดิบเข้ากลั่นอย่างระมัดระวัง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสอดคล้องกับสภาพ ความต้องการของตลาด อีกทั้งปริษัทยังมีกำไรจากสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันล่วงหน้าที่บริษัทฯ ได้ทำประกันความเสี่ยงเพื่อป้องกันความผันผวนของราคาน้ำมันไว้ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป ในตลาดโลกมีการปรับตัวผันผวนสูง จากสถานการณ์ความตึงเครียดของประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก ได้แก่ ปัญหาทางการเมืองการปกครองภายในของประเทศไนจีเรีย และปัญหาระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตก เกี่ยวกับการทดลองพลังงานนิวเคลียร์ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันจำนวน 462 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ระดับ 678 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาส 1 ปี 2548 มีการปรับขึ้นของ ราคาน้ำมันตลาดโลกในอัตราที่สูงกว่าปี 2549 แต่อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันในปีนี้ยังคงมีแนวโน้มแกว่งตัว ในลักษณะขาขึ้น ดังนั้นในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีค่าการกลั่นรวมอยู่ที่ระดับ 5.12 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาเรล โดยการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ระดับ 66 พันบาเรลต่อวัน ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ระดับ 69 พันบาเรลต่อวัน 2) บริษัทฯ มีค่าการตลาด(ไม่รวมน้ำมันหล่อลื่น) อยู่ที่ระดับ 44.4 สตางค์ต่อลิตร สูงกว่าช่วงเดียวกันของ ปีก่อนที่อยู่ที่ระดับ 22.7 สตางค์ต่อลิตร ทั้งนี้เป็นผลมาจากในช่วงไตรมาสแรกของปีก่อนราคาน้ำมันใน ตลาดโลก มีอัตราการปรับขึ้นอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง แต่บริษัทฯ ไม่สามารถปรับราคาขายปลีกได้ทันกับ ต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้น สำหรับในปี 2549 นี้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดสิงคโปร์มีการปรับขึ้นในลักษณะ แกว่งตัว ทำให้กลไกการปรับราคาสามารถทำได้อย่างสอดคล้องกับต้นทุนที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ จึงมีค่าการตลาดที่สูงขึ้น 3) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร จำนวน 372 ล้านบาท ลดลง 2 ล้านบาท เนื่องมาจากค่าใช้จ่ายหนี้ สงสัยจะสูญที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 4) บริษัทฯ มีดอกเบี้ยจ่าย 158 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2 ล้านบาท เป็นผลมาจากการ ที่บริษัทฯ มีหนี้สินเงินกู้ยืมเฉลี่ยลดลง แต่ทั้งนี้ก็มีการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย 5) งบดุลและอัตราส่วนทางการเงิน สรุปได้ดังนี้ ณ 31 มี.ค. 49 ณ 31 ธ.ค. 48 (หน่วย: ล้านบาท) (สอบทานแล้ว) (ตรวจสอบแล้ว) * สินทรัพย์รวม 33,303 34,164 * หนี้สินรวม 19,831 21,294 * ส่วนของผู้ถือหุ้น 13,472 12,870 * สัดส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น,เท่า1/ 0.96 1.05 * มูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น,บาท 19.60 18.72 หมายเหตุ 1/ คิดเฉพาะหนี้สินในส่วนที่มีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย (Interest Bearing Debt) จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ -ลงนาม- (นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล) กรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักแผนกิจการและนักลงทุนสัมพันธ์ โทร. 0 -2335-4583