ชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาส1 ปี 2548(ก่อนสอบทาน)

ที่ 1000 / 092 / 2548 27 เมษายน 2548 เรื่อง นำส่งงบการเงินก่อนสอบทาน และชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2548 เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สิ่งที่ส่งมาด้วย 1.งบการเงินก่อนสอบทานไตรมาส 1 ปี 2548 ฉบับภาษาไทย 1 ฉบับ 2.งบการเงินก่อนสอบทานไตรมาส 1 ปี 2548 ฉบับภาษาอังกฤษ 1 ฉบับ ตามที่บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ได้มีการจัดส่งงบ การเงินก่อนสอบทานและก่อนตรวจสอบตามแนวทางการนำส่งงบการเงินก่อน สอบทานและก่อนตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชี ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นั้น บริษัทฯ ใคร่ขอนำส่งงบการเงินก่อนสอบทานโดยผู้สอบบัญชี สำหรับไตรมาส 1 ปี 2548 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2548 และขอชี้แจงผล การดำเนินงานเพิ่มเติม เนื่องจากมีผลกำไรขาดทุนเปลี่ยนแปลงจากงวดเดียวกัน ของปีก่อนเกินร้อยละ 20 ดังนี้ ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2548 บริษัทฯ มีรายได้รวม 17,867 ล้าน บาท มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) +780 ล้านบาท มีดอกเบี้ย จ่ายสุทธิ (หักลบดอกเบี้ยรับ) 154 ล้านบาท มีค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย 190 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิ 438 ล้านบาท (เปรียบเทียบกับช่วงเดียว กันปี 2547 มีผลกำไรสุทธิ 646 ล้านบาท) ผลการดำเนินการดังกล่าวมีสาเหตุมาจาก ปัจจัยดังต่อไปนี้ 1) บริษัทฯ มีค่าการกลั่น (ไม่รวมกำไรจากสต๊อกน้ำมัน) 1.89 ดอลลาร์ สรอ.ต่อ บาเรล ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนเล็กน้อยที่อยู่ที่ระดับ 1.93 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาเรล เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามสภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ส่งผลให้ราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลปรับตัว ขึ้นสูงกว่าการปรับตัวขึ้นของน้ำมันดิบ ประกอบกับ บริษัทฯ ดำเนินกิจกรรม เพิ่มรายได้และลดต้นทุนร่วมกับบริษัทน้ำมันอื่นอย่างต่อเนื่อง โดยการใช้กำลัง การผลิตอยู่ที่ระดับ 69 พันบาเรลต่อวัน ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนที่อยู่ที่ ระดับ 96 พันบาเรลต่อวัน เนื่องจากมีการหยุดซ่อมแซมหน่วยกลั่นประจำปี เป็นเวลาประมาณ 30 วัน ส่งผลให้ระดับการกลั่นเฉลี่ยทั้งไตรมาสอยู่ใน ระดับต่ำกว่าปกติ 2) บริษัทฯ มีค่าการตลาด (ไม่รวมน้ำมันเครื่องบิน) อยู่ที่ระดับ 22 สตางค์ต่อ ลิตร ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ระดับ 47 สตางค์ต่อลิตร ทั้งนี้เป็น ผลมาจากการสภาวะการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรง ประกอบกับมีการลดราคา ขายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ลงให้ต่ำกว่าราคาน้ำมันเบนซิน 95 ปกติ 1.50 บาท (แต่ทั้งนี้การลดราคาน้ำมัน แก๊สโซฮอล์ลงดังกล่าว ก็ส่งผลให้บริษัทฯ มียอด จำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้นกว่า 3.8 เท่าตัว) นอกจากนี้ บริษัทฯ มีผล ขาดทุนจากการขายน้ำมันเครื่องบิน จำนวน 131 ล้านบาท เนื่องจากสูตร ราคาขายน้ำมันเครื่องบิน จะใช้ราคาน้ำมันเครื่องบินเฉลี่ยเดือนก่อนหน้า ใน ขณะที่ต้นทุนขายที่ธุรกิจการตลาดซื้อจากธุรกิจโรงกลั่นเป็นราคาน้ำมัน เครื่องบินในเดือนส่งมอบนั้นๆ ส่งผลให้ในช่วงที่ราคาน้ำมันเครื่องบินมีแนว โน้มเพิ่มขึ้น การจำหน่ายน้ำมันเครื่องบินจะมีผลขาดทุน แต่ในทางกลับกัน หากเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันเครื่องบินเริ่มคงที่หรือลดลง บริษัทฯ ก็จะมีกำไร กลับมาเช่นกัน 3) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร จำนวน 373 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียว กันปีก่อน 84 ล้านบาท เนื่องจากค่าใช้จ่ายหลักที่เพิ่มขึ้นคือ ค่าใช้จ่ายที่ เกี่ยวข้องกับโครงการ Early Retirement ค่าโฆษณาและประชา สัมพันธ์ และค่าซ่อมบำรุงสถานีบริการ 4) บริษัทฯ มีดอกเบี้ยจ่าย 160 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 83 ล้าน บาท เป็นผลจากการ Refinance หุ้นกู้เดิมส่วนใหญ่ด้วยเงินทุนใหม่ที่ได้ จากการปรับโครงสร้างการเงิน นอกจากนี้ บริษัทฯ มีดอกเบี้ยรับ 6 ล้าน บาท ลดลง 2 ล้านบาท จากการที่บริษัทฯ ได้รับวงเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนตามแผนการปรับโครงสร้างการเงิน บริษัทฯ จึงไม่ มีความจำเป็นต้องถือเงินสดเป็นจำนวนมากเพื่อเตรียมไว้ชำระค่าน้ำมันดิบ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ (นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล) ผู้จัดการใหญ่ สำนักแผนกิจการและนักลงทุนสัมพันธ์ โทร. 0 -2335-4583