Executive Talk ครั้งนี้เราได้รับเกียรติจาก

คุณสมชัย เตชะวณิช

ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด

ช่วยเล่าให้เราฟังถึงการแข่งขันในธุรกิจสถานีบริการน้ำมันและธุรกิจ non-oil ในช่วงปีที่ผ่านมา รวมถึงมองแนวโน้มของธุรกิจนี้ในอนาคตค่ะ?

ตลาดสถานีบริการของไทยปี 2563 ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย 0.1% ขณะที่ผู้ค้ารายหลักยังคงขยายสาขาต่อเนื่อง โดยเมื่อเทียบ Q3/2563 กับ Q3/2562 จำนวนสถานีบริการเพิ่มขึ้น 334 สาขา ขณะที่จำนวนสถานีบริการอิสระปรับตัวลดลง 286 สาขา ส่งผลให้การแข่งขันในตลาดสถานีบริการน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องครับ

ในปัจจุบันสถานีบริการน้ำมันไม่ใช่เพียงแค่สถานที่เติมน้ำมัน ความคาดหวังของผู้บริโภคในการเข้ามาใช้สถานีบริการน้ำมันต้องมากกว่านั้น จากการศึกษาข้อมูลเราพบว่าบ่อยครั้งลูกค้าจะเข้ามาใช้บริการธุรกิจ Non-Oil ในสถานีบริการน้ำมันบ่อยกว่าการเข้ามาเติมน้ำมัน ทำให้บางจากฯมีการเพิ่มพันธมิตร Non-Oil อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2563 เราได้ร่วมมือกับ บริษัท เซ็นทรัล รีเทลฯ ขยายร้านสะดวกซื้อ แฟมิลี่ มาร์ท และ ท็อปส์ เดลี่ ในสถานีบริการน้ำมันบางจากฯ รวมถึงยังมีร้านสะดวกซื้อมินิบิ๊กซี และ ใบจากมาร์ท นอกจากนี้บางจากยังให้ความสำคัญต่อการพัฒนาธุรกิจคาร์แคร์ ภายใต้แบรนด์ “Furio Care” “Wash Pro” และ“Green Wash” รวมไปถึงมีการเพิ่มพันธมิตร Non-Oil รายใหม่ทั้งร้านอาหารและร้านค้าอื่นๆ ให้ตรงตามต้องการของลูกค้าในแต่ละทำเลอีกด้วยครับ

ส่วนแนวโน้มตลาดในปี 2564 นั้น เราคาดว่าตลาดสถานีบริการขยายตัวจากปี 2563 เล็กน้อย หากสามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดของ COVID 19 ระลอกใหม่ รวมถึงความคืบหน้าของการฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตามคาดว่าผู้ค้ารายหลักยังคงมีแผนในการลงทุนเพื่อขยายสาขา จึงยังทำให้การแข่งขันยังคงรุนแรงต่อเนื่องครับ

คุณสมชัยมองว่าสถานีบริการน้ำมันบางจากมีความพิเศษหรือแตกต่างจากผู้ให้บริการอื่นอย่างไรคะ? เรามีจุดเด่นอะไรที่จะดึงดูดลูกค้ามาใช้บริการบ้างคะ?

บางจากฯ มุ่งมั่นในการส่งมอบประสบการณ์นวัตกรรมสีเขียวที่ตรงความต้องการของลูกค้า พร้อมสร้างการมีส่วนร่วมในการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด Evolving Greenovative Experience เพื่อให้สถานีบริการน้ำมันบางจากเป็น Greenovative Destination ของลูกค้า ตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูงตรงกับความต้องการของลูกค้าและยังสามารถช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กันได้ โดยเราเป็นผู้นำในการจำหน่ายน้ำมันมาตรฐาน EURO 5 ซึ่งมีค่ากำมะถันต่ำ เรามีการพัฒนาสถานีบริการรูปแบบ Unique Design ที่มีการออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ พร้อมกับพัฒนาธุรกิจ Non-Oil ที่หลากหลายให้บริการลูกค้า เช่น ร้านกาแฟอินทนิล ผู้นำของร้านกาแฟ ECO Brand ธุรกิจคาร์แคร์ของบางจากฯ ร้านอาหารพันธมิตร และบริการอื่นๆ ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้าในแต่ละพื้นที่ เป็นการส่งมอบประสบการณ์ที่มากกว่าการเติมน้ำมัน และในปี 2564 เรามีความมุ่งมั่นที่จะขยายสถานีบริการเพิ่มขึ้นอีกกว่า 100 สาขา พร้อมทั้งยกระดับงานบริการของพนักงานที่สถานีบริการ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า

นอกจากนี้ บางจากฯ ยังให้ความสำคัญต่อการพัฒนาสิทธิประโยชน์สำหรับลูกค้าที่เป็นสมาชิกบางจาก มาอย่างต่อเนื่องกว่า 15 ปี เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่มาใช้บริการ ผ่านการนำข้อมูลพฤติกรรมการใช้บริการ การแลกสิทธิประโยชน์ มาพัฒนาต่อยอดเป็นโปรแกรมการตลาดที่ตรงความต้องการของลูกค้ารายบุคคลด้วยครับ

และนอกเหนือจากการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าแล้ว บางจากฯยังคำนึงถึงการเติบโตไปพร้อมกับการสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนและสังคม โดยปีนี้เราได้จัดกิจกรรม “บางจากชวนคนไทยสู้โควิด The Series” ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเยียวยาฟื้นฟู สังคมและเศรษฐกิจชุมชน ตามปรัชญาการดำเนินธุรกิจของเรา

แล้วทางด้านธุรกิจ non-oil ของบางจากฯ มีแผนที่จะเติบโตไปอย่างไรบ้างช่วยแชร์ให้เราฟังหน่อยค่ะ?

กลุ่มธุรกิจการตลาดมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจ Non-Oil และน้ำมันหล่อลื่นอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่จะสร้าง EBITDA จากธุรกิจ 2 กลุ่มนี้ ให้ได้ตามเป้าหมายที่ 30% ผมจะขอเล่าอย่างนี้นะครับ

ธุรกิจร้านกาแฟอินทนิลของเราในปีนี้ก้าวสู่ปีที่ 15 อย่างมั่นคง โดยพร้อมให้บริการกว่า 700 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งปีที่ผ่านมาเราขยายร้านกาแฟอินทนิล 111 สาขา โดยในปี 2564 เราตั้งเป้าในการขยายสาขาร้านกาแฟอินทนิลรวม 150 สาขา ทั้งในและนอกสถานีบริการ ซึ่งร้านกาแฟอินทนิลดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด “อินทนิลทุกแก้วของคุณ เพื่อโลกของเรา” เป็นผู้นำของธุรกิจร้านกาแฟที่ช่วยลดขยะพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้งอย่างยั่งยืน ด้วยการเป็นผู้ใช้แก้ว Bio-Cup รายใหญ่ที่สุด นอกจากนี้ปี 2564 อินทนิลได้กำหนดกลยุทธ์หลักในการแข่งขันผ่าน 5 Good Experience คือ

  • Good Taste เราเสิร์ฟเครื่องดื่มและกาแฟที่คัดสรรจากเมล็ดกาแฟอาราบิก้าแท้ 100% ผ่านกระบวนการผลิตอย่างใส่ใจ เมนูเครื่องดื่มโกโก้ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก รวมถึงผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ต่างๆ ที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี ตามมาตรฐานของอินทนิล และเรายังไม่หยุดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตรงกับพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า เช่น Inthanin Home Coffee Series, Inthanin X partners
  • Good Service เพราะลูกค้าคือคนสำคัญ เราจึงให้ความสำคัญต่อการส่งมอบบริการที่ประทับใจให้กับลูกค้าเพื่อให้อินทนิลเป็นเหมือนจุดแวะชาร์จพลัง หรือเป็นการเริ่มต้นวันที่ดีของลูกค้า
  • Good Design ใส่ใจต่อการส่งมอบประสบการณ์การใช้บริการผ่าน การออกแบบร้านให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า
  • Good Health นอกจากส่งมอบเครื่องดื่ม และกาแฟที่รสชาตินุ่มละมุน ยังให้ความสำคัญต่อการพัฒนาเครื่องดื่มและของว่างสำหรับลูกค้ากลุ่มผู้รักสุขภาพ เช่น เมนูสนับสนุนผลไม้ท้องถิ่น ตามฤดูกาล
  • Good Society เน้นย้ำผู้นำธุรกิจร้านกาแฟที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ECO Brand ตอกย้ำการเป็นผู้นำของธุรกิจร้านกาแฟที่ใช้ แก้วไบโอพลาสติก และเพื่อให้เป็นการลดพลาสติกอย่างยั่งยืน อินทนิลจึงร่วมกับกรมป่าไม้จัดการกิจกรรมแก้วเพาะกล้าโดยนำแก้วไบโอคัพใช้แล้วของอินทนิลมาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงมีแผนการนำกากกาแฟจากกระบวนการทำธุรกิจมาใช้ประโยชน์

ในด้านธุรกิจคาร์แคร์ เรามีแผนในการขยายอย่างต่อเนื่องเพื่อบริการลูกค้าและเพิ่มสัดส่วนการขายน้ำมันหล่อลื่นผ่านธุรกิจคาร์แคร์ หลังจากปีที่ผ่านมาได้มีการปรับปรุงมาตรฐานและยกระดับการบริการของธุรกิจคาร์แคร์ โดยตั้งเป้าขยาย 40 สาขาในปีนี้ ปัจจุบันเราทำการทดลองพัฒนา Wash Pro ที่ดำเนินการโดย บจก.กรีนเนท บริษัทในเครือ จำนวน 2 สาขา เพื่อเป็นรากฐานในการขยายธุรกิจคาร์แคร์ในอนาคต

ส่วนธุรกิจร้านสะดวกซื้อและพันธมิตร Non-Oil ปัจจุบันสถานีบริการน้ำมันบางจากมีร้านสะดวกซื้อแบรนด์หลักคอยให้บริการมากกว่า 190 สาขาและกำลังขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีก นอกจากนี้เรายังมุ่งมั่นเพิ่มพันธมิตร Non-Oil รายใหม่ๆ ทั้งธุรกิจอาหารและร้านค้าอื่นๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ครับ


คุณสมชัย เตชะวณิช

ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด