คำอธิบายงบการเงินประจำปี

ที่ 1600 / 030 / 2547 8 มีนาคม 2547 เรื่อง คำอธิบายและการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ สำหรับผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2546 เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำเนาเรียน ผู้อำนวยการฝ่ายจดทะเบียนหลักทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สิ่งที่ส่งมาด้วย คำอธิบายและการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ สำหรับผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2546 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้สนับสนุนให้บริษัท จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีการจัดทำคำอธิบายและการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการทุกไตรมาส เพื่อให้ผู้ลงทุน สามารถเข้าใจฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทได้ดียิ่งขึ้นนอกเหนือจากข้อมูลตัวเลขในงบการเงิน อีกทั้งเพื่อให้ผู้ลงทุนได้มีข้อมูลที่เพียงพอต่อการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัท ตามหลักการกำกับดูแล กิจการที่ดี (GOOD GOVERNANCE) ในเรื่องการให้ความสำคัญต่อการเปิดเผยข้อมูล นั้น บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่เป็นบริษัทจดทะเบียนหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ ได้ให้ความสำคัญต่อการดำเนินกิจการอย่างโปร่งใสตามแนวนโยบายบรรษัทภิบาล จึงได้จัดทำและใคร่ขอนำ ส่งคำอธิบายและการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ สำหรับผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2546 ดังรายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย จึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอแสดงความนับถือ (นายวัชรพงศ์ ใสสุก) ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักแผนกิจการ สำนักแผนกิจการ โทร. 0 -2335-4583 คำอธิบายและการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2546 ข้อมูลทั่วไป บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2528 โดย รัฐบาล ฯพณฯ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ โดยมุ่งหมายให้ดำเนินการแบบเอกชน และเป็นบริษัทน้ำมันของคนไทยที่ดำเนินกิจการ สอดคล้องกับประโยชน์ของคนไทยและสังคมไทย ปัจจุบันบริษัทฯ ประกอบธุรกิจจำหน่ายน้ำมันสำเร็จรูป ทั้งค้าปลีกและค้าส่ง และบริหารกิจการโรงกลั่น น้ำมันขนาด 120,000 บาเรลต่อวัน ซึ่งก่อสร้างใหม่ทดแทนหน่วยเดิม โดยหน่วยกลั่นล่าสุดแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2536 การออกแบบกระบวนการกลั่นเน้นการผลิตได้น้ำมันสะอาด ประหยัดพลังงาน และให้ผลผลิตสูง อีกทั้ง บริษัทฯ มีการขยายเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันออกไปประมาณ 1,100 แห่ง ทั่วประเทศ โดยเป็นสถานีบริการ น้ำมันขนาดใหญ่ประมาณ 600 แห่ง และปั๊มชุมชนขนาดเล็กประมาณ 500 แห่ง ภาพรวมธุรกิจในปี 2546 สำหรับปี 2546 เศรษฐกิจในประเทศและภูมิภาคมีการเจริญเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความ ต้องการใช้น้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งมีผลทำให้ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้นเช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงดำเนินกิจการภายใต้ความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลกจากภาวะสงครามระหว่างสหรัฐฯ และอิรัก และการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินบาทต่อเงินดอลลาร์ สรอ. อย่างต่อเนื่อง ส่วนสภาวะการแข่งขันในประเทศยังคง อยู่ในระดับสูงแม้ว่าสถานการณ์จะผ่อนคลายลงจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากกำลังการผลิตน้ำมันในประเทศยังคง เกินความต้องการใช้อยู่ระดับหนึ่ง แต่จากการเจริญเติบโตของสภาวะเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องซึ่งมีผลโดยตรง ต่อปริมาณความต้องการใช้น้ำมัน บริษัทฯ คาดว่าสภาวะเกินดุลดังกล่าวจะเข้าสู่สมดุลในปี 2548 - 2549 ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้พยายามเพิ่มปริมาณการจำหน่ายเฉพาะในช่องทางที่มีกำไรสูง เช่น การเพิ่มปริมาณการ จำหน่ายผ่านสถานีบริการภายใต้ตราของบริษัท การเพิ่มปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเตาในตลาดอุตสาหกรรม แต่ได้ชะลอการจำหน่ายน้ำมันผ่านตลาด Jobber ที่มีกำไรต่ำ รายละเอียดผลการดำเนินงานเฉพาะบริษัทมีดังนี้ 1. คำอธิบายและการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานสำหรับปี 2546 เปรียบเทียบปี 2545 1.1 การวิเคราะห์กำไรขาดทุน 1) ผลการดำเนินงานบริษัทปี 2546 บริษัทฯ มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคา (EBITDA ไม่รวมกำไรจากสต๊อกน้ำมันและรายการอื่นๆ ที่เกิดจากการปรับโครงสร้างธุรกิจและการเงิน) +1,502 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อน 289 ล้านบาท เป็นผลมาจากปัจจัยหลักดังต่อไปนี้ - ในปี 2546 ค่าการกลั่น (ไม่รวมผลกำไรจากสต๊อกน้ำมัน) ปรับเพิ่มขึ้น 0.18 $/BBL เป็นประมาณ 1.49 $/BBL จาก 1.31 $/BBL ในปี 2545 เนื่องจากความต้องการใช้ น้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นตามสภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว แต่อย่างไรก็ตาม การดำเนินการเพิ่ม รายได้และลดต้นทุนร่วมกับบริษัทน้ำมันอื่น บริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินการได้ในระดับหนึ่ง เท่านั้นในปีที่ผ่านมา เนื่องจากบันทึกความเข้าใจ (MOU) ได้ลงนามเมื่อปลายปี 2546 นอกจากนี้ ปริมาณการ กลั่นยังคงอยู่ในระดับ 74 KBD ใกล้เคียงกับปีก่อน เนื่องจาก บริษัทฯ มีนโยบายเน้นการขายเฉพาะตลาดที่มีกำไรสูง เช่น ตลาดสถานีบริการ ตลาดอุตสาหกรรม เป็นต้น แต่ทั้งนี้ ในปี 2546 บริษัทฯ มีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน (FX & Price Effects) จำนวน 52 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับ ปี 2545 ที่มีกำไรจากสต๊อกน้ำมันจำนวน 1,609 ล้านบาท อีกทั้งมีการตั้งสำรองหนี้ค่าขนส่งจ่ายล่วงหน้าและผลต่างดอกเบี้ย ค้างรับของบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) และการตัดจ่ายภาษีจ่ายล่วงหน้า จากการนำเข้าน้ำมันรีฟอร์เมทจำนวนรวม 233 ล้านบาท ซึ่งถูกบันทึกอยู่ในค่าใช้จ่าย ในการขายและบริหาร ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้กำไรเบื้องต้นตามบัญชีของบริษัทฯ ลดลง - ในปี 2546 ยอดขายน้ำมันผ่านสถานีบริการของบริษัทฯ ปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 17% ส่วนยอดขายน้ำมันเตาผ่านตลาดอุตสาหกรรมก็เพิ่มขึ้นประมาณ 7% แต่มียอดขายลดลงใน ตลาดขายผ่าน Jobber ที่มีกำไรต่ำ และตลาดน้ำมันเครื่องบินที่ได้รับผลกระทบจากการ ระบาดของโรค SARS ส่วนค่าการตลาดน้ำมันสำเร็จรูปปรับตัวลดลงประมาณ 0.03 บาท/ ลิตร ซึ่งเป็นผลมาจากสภาวะการแข่งขันที่ยังคงอยู่ในระดับสูงในปี 2546 2) นอกจากกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคา +1,502 ล้านบาท และกำไรจากสต๊อกน้ำมัน +52 ล้านบาท บริษัทฯ มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนในส่วนของเงินกู้และอื่นๆ 103 ล้านบาท มี ดอกเบี้ยจ่ายก่อนการปรับโครงสร้างการเงิน 1,028 ล้านบาท มีดอกเบี้ยรับ 36 ล้านบาท และมี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย 740 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มีผลขาดทุนก่อนรายการอื่นๆ 74 ล้านบาท โดยมีรายการอื่นๆ ที่เกิดขึ้นตามแผนการดำเนินการปรับโครงสร้างทางธุรกิจและ การเงิน 1,199 ล้านบาท (รายละเอียดแสดงในวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายรวม) ส่งผลให้บริษัทฯ มี ผลขาดทุนสุทธิ 1,275 ล้านบาท 1.2 การวิเคราะห์รายได้ ในปี 2546 บริษัทฯ มีรายได้รวม 61,262 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 9,325 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.0 โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1) รายได้จากการขาย 60,815 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2545 จำนวน 9,011 ล้านบาท หรือร้อยละ 17.4 เนื่องจากราคาขายน้ำมันเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.7 (ราคาน้ำมันเฉลี่ย 10.14 บาท/ลิตร เทียบกับ 9.24 บาท/ลิตร) และปริมาณการจำหน่ายรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.0 2) กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 293 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 304 ล้านบาท โดยเป็น กำไรอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินกู้และอื่นๆ 103 ล้านบาท และกำไรอัตราแลกเปลี่ยนจาก เจ้าหนี้การค้า 190 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับตัวแข็งค่าขึ้นของค่าเงินบาทจาก 43.30 บาท/ดอลลาร์ สรอ. ณ สิ้นปี 2545 เป็น 39.74 บาท/ดอลลาร์ สรอ.ณ สิ้นปี 2546 1.3 วิเคราะห์ค่าใช้จ่ายรวม ในปี 2546 บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 62,536 ล้านบาท ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 61,337 ล้านบาท และรายการอื่นๆ ที่เกิดขึ้นตามแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจและการเงิน 1,199 ล้านบาท 1) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 61,337 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 9,924 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.3 เป็นผลมาจาก - ต้นทุนขายไม่รวมผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าสต๊อกน้ำมัน (กำไรจากสต๊อกน้ำมัน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.9 เมื่อเทียบกับปีก่อน ต้นทุนน้ำมันปรับเพิ่มร้อยละ 17.9 เป็นผลมา จากราคาน้ำมันและปริมาณการจำหน่ายที่ปรับสูงขึ้น หักลบกับค่าใช้จ่ายในการผลิตที่ปรับลด ลงจากการที่บริษัทฯ ได้ทำการยืดอายุการตัดค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์โรงกลั่นออกไปให้ สอดคล้องกับอายุการใช้งานของโรงกลั่นและสัญญาเช่าใช้ที่ดินที่ตั้งโรงกลั่นที่ยืดออกไปจาก 12 ปี เป็น 30 ปี ซึ่งส่งผลทำให้ค่าเสื่อมราคาในปี 2546 ปรับลดลงประมาณ 303 ล้านบาท ซึ่งค่าเสื่อมราคาส่วนนี้จะถูกบันทึกไว้ในต้นทุนขาย แต่อย่างไรก็ตาม หากรวมผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าสต๊อกน้ำมันแล้ว ต้นทุน ขายในปี 2546 จะเป็น 58,709 ล้านบาท - ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 1,309 ล้านบาท (ไม่รวมรายการอื่นๆ ที่เกิดขึ้นตามแผน การปรับโครงสร้างธุรกิจและการเงินที่บันทึกอยู่ในค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจำนวน 233 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 173 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.2 เป็นผลมาจากปริมาณ การจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับมีค่าใช้จ่ายขนส่งเพิ่มขึ้นจากการการจ้างผู้รับเหมาขนส่งน้ำมัน แทนการดำเนินการเอง (Outsourcing) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่งไปยังลูกค้า - ดอกเบี้ยจ่าย 1,028 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 272 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.0 เป็นผลมา จากการ Refinance เงินกู้ในประเทศที่ครบกำหนดชำระในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดลด ลง ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยจ่ายเฉลี่ยลดลงร้อยละ 1.0 อีกทั้งในปี 2545 มีค่าธรรมเนียมชำระ คืนเงินกู้ธนาคารโลกก่อนครบกำหนดจำนวน 92 ล้านบาท แต่จากการชำระคืนเงินกู้ดังกล่าว ส่งผลให้สามารถลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยได้กว่า 85 ล้านบาทต่อปี 2) รายการอื่นๆ ที่เกิดขึ้นตามแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจและการเงิน 1,199 ล้านบาท ประกอบด้วย การด้อยค่าสินทรัพย์ในส่วนที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์และตั้งสำรองหนี้ค่าขนส่งจ่ายล่วงหน้าและอื่นๆ จำนวน 987 ล้านบาท (Non-Cash Item) ซึ่งจะถูกบันทึกเป็นรายการขาดทุนจากการด้อยค่า สินทรัพย์จำนวน 754 ล้านบาท (การด้อยค่าที่ดินที่ไม่ได้ใช้ในการดำเนินงานและสถานีบริการที่ ปิดให้บริการ) และบันทึกอยู่ในค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจำนวน 233 ล้านบาท (การตั้ง สำรองหนี้ค่าขนส่งจ่ายล่วงหน้าและผลต่างดอกเบี้ยค้างรับของบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) และการตัดจ่ายภาษีจ่ายล่วงหน้าจากการนำเข้าน้ำมันรีฟอร์เมททั้งจำนวนและอื่นๆ) และ ค่าธรรมเนียมไถ่ถอนหุ้นกู้ที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกันก่อนกำหนดจำนวน 212 ล้านบาท ตามแผนการปรับโครงสร้างการเงิน 2. คำอธิบายและการวิเคราะห์ฐานะการเงินสำหรับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2546 เปรียบเทียบ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2545 2.1 สินทรัพย์ สินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 2546 เทียบกับ ณ สิ้นปี 2545 มีมูลค่าลดลง 409 ล้านบาท โดยรายการ สินทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงมากคือ 1) เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 3,348 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,974 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2545 เพื่อเตรียมไว้ชำระค่าน้ำมันดิบในวันที่ 6 มกราคม จำนวน 3 ลำ ประมาณ 46 ล้านดอลลาร์ สรอ. 2) ลูกหนี้/ตั๋วเงินรับการค้า มูลค่า 2,794 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2545 เนื่องจากยอดขายน้ำมันที่สูงขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันเฉลี่ยที่ปรับตัวสูงขึ้น 3) สินค้าคงเหลือรวมทั้งสิ้นจำนวน 5,396 ล้านบาท ลดลง 693 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2545 เนื่องจากปริมาณสินค้าคงเหลือที่ลดลง 94 ล้านลิตร แต่ราคาเฉลี่ยได้ปรับเพิ่มขึ้น 0.10 บาท/ ลิตร 4) ค่าขนส่งจ่ายล่วงหน้า ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ และเงินลงทุนในสถานีบริการน้ำมัน รวมทั้งสิ้น 14,993 ล้านบาท ลดลง 1,462 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2545 เป็นผลมาจาก ณ สิ้นปี 2546 บริษัทฯ ได้ทำการด้อยค่าที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์และสถานีบริการที่ปิดให้บริการและอื่นๆ 764 ล้านบาท อีกทั้ง ได้ทำการตั้งสำรองหนี้ค่าขนส่งจ่ายล่วงหน้า 130 ล้านบาท และดอกเบี้ย ค้างรับจากการปรับโครงสร้างการเงินของ FPT 41 ล้านบาท เพื่อให้สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของ ทรัพย์สิน นอกจากนี้ ในงวดบัญชีปี 2546 ได้มีการเปลี่ยนแปลงประมาณการอายุการใช้งานของเครื่องจักร และอุปกรณ์หอกลั่นจากเดิมกำหนดอายุการใช้งานประมาณ 15 - 20 ปี เป็นอายุการใช้งาน 30 ปี เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานจริงและสอดคล้องกับอายุสัญญาเช่าใช้ที่ดินที่ตั้งโรงกลั่น ดังนั้น จึงมีการเปลี่ยนแปลงอายุการใช้งานที่เหลือของทรัพย์สินดังกล่าว ส่งผลให้ค่าเสื่อมราคาในงวดนี้ ลดลง 303 ล้านบาท 2.2 หนี้สิน หนี้สิน ณ สิ้นปี 2546 เทียบกับ ณ สิ้นปี 2545 มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 1,096 ล้านบาท ประกอบด้วย หนี้สินหลักที่เพิ่มขึ้น คือ 1) เจ้าหนี้การค้าจำนวน 4,415 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,278 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2545 เป็นผลมาจากในเดือนธันวาคม 2545 มีการชำระค่าน้ำมันดิบล่วงหน้าจำนวน 1 ลำ เป็นจำนวน เงิน 13 ล้านดอลลาร์ สรอ. 2) เงินกู้ยืมระยะสั้นจำนวน 1,391 ล้านบาท ลดลง 1,090 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2545 เป็นผลมาจากการจ่ายคืนเงินกู้ระยะสั้น และผลกระทบจากค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นจำนวน 125 ล้านบาท ของเงินกู้ Euro Commercial Paper (ECP) จากกระทรวงการคลังจำนวน 35 ล้านดอลลาร์ สรอ. 3) เงินกู้ยืมระยะยาวและเงินกู้ยืมระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระในหนึ่งปีและเงินกู้ยืมที่ขอไถ่ถอนก่อน กำหนดรวม 9,973 ล้านบาท ลดลง 6,380 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2545 โดยการ Refinance ระยะสั้นด้วยเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ชำระคืนบางส่วน เพื่อรอการปรับโครงสร้างการเงินบริษัทตามมติคณะรัฐมนตรี 4) เงินกู้ยืมธนาคารจำนวน 8,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2545 เนื่องจากบริษัทฯ ได้กู้เงินเพิ่มจากธนาคารพาณิชย์เพื่อนำไปชำระเงินกู้ระยะยาวและระยะสั้นที่ครบ กำหนดชำระในปี 2546 และทำการไถ่ถอนหุ้นกู้ที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกันก่อนกำหนดตาม แผนการปรับโครงสร้างทางการเงิน 2.3 ส่วนของผู้ถือหุ้น 1) ณ สิ้นปี 2546 ผลขาดทุนสะสมของบริษัทฯ จำนวน 2,389 ล้านบาท ลดลง 5,979 ล้านบาท เปรียบเทียบกับ ณ สิ้นปี 2545 เนื่องจากเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2546 ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้มีมติ ให้ดำเนินการปรับโครงสร้างการเงิน ซึ่งบริษัทฯ ได้ทำการบันทึกบัญชี ดังนี้ - ให้ลดทุนจดทะเบียนโดยตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังมิได้จำหน่ายออก จำนวน 250 ล้านหุ้น ให้คงเหลือ 522 ล้านหุ้น รายการนี้ได้จดทะเบียนลดทุนกับกระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2546 - ให้ลดผลขาดทุนในบัญชี กำไร(ขาดทุน) สะสม จำนวน 2,556 ล้านบาท โดยโอนมา จากบัญชีส่วนเกินมูลค่าหุ้นจำนวน 2,008 ล้านบาท และจากบัญชีกำไรสะสมสำรอง ตามกฎหมาย จำนวน 548 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ได้ดำเนินการแล้วตั้งแต่งวดบัญชี 9 เดือน ปี 2546 - ให้ลดมูลค่าหุ้นละ 10 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาท และให้โอนเงินลดมูลค่าหุ้นดังกล่าว จำนวน 4,698 ล้านบาท ไปลดผลขาดทุนสะสมในบัญชีกำไร(ขาดทุน) สะสมเพิ่ม เติม ซึ่งรายการนี้ได้จดทะเบียนลดทุนกับกระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2546 - การดำเนินการตามมติดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อส่วนของผู้ถือหุ้นโดยรวม 2) ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ สิ้นปี 2546 จำนวน 3,081 ล้านบาท ลดลง 1,505 ล้านบาท จาก ณ สิ้นปี 2545 เนื่องจากบริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ 1,275 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีการ ตัดจ่ายส่วนเกินทุนจากการตีมูลค่าสินทรัพย์จำนวน 230 ล้านบาท 3. คำอธิบายและการวิเคราะห์งบกระแสเงินสด สำหรับปี 2546 เปรียบเทียบกับปี 2545 ในปี 2546 บริษัทฯ มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 3,348 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,974 ล้านบาท เป็นผลมาจาก 1) เงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดำเนินงานจำนวน 2,574 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจาก บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงาน 487 ล้านบาท มีสินทรัพย์และหนี้สินดำเนินงาน เพิ่มขึ้นสุทธิ 2,087 ล้านบาท เนื่องจากมีเจ้าหนี้การค้าเพิ่มขึ้นแต่สินค้าคงเหลือลดลง 2) เงินสดสุทธิที่ใช้ไปในกิจกรรมลงทุนจำนวน 255 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการลงทุนเพิ่ม ในสินทรัพย์ถาวร-อุปกรณ์ และสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่นๆ 3) เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงินจำนวน 345 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการชำระคืน เงินกู้ที่ครบกำหนดชำระโดยใช้กระแสเงินสดคงเหลือจากการดำเนินงาน