การจ่ายเงินปันผลและกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2552

ที่ 1000 / 029 / 2552 19 กุมภาพันธ์ 2552 เรื่อง การจ่ายเงินปันผล และกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2552 เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท บางจากฯ (มหาชน) ครั้งที่ 2/2552 เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2552 ได้มีมติที่ประชุมดังต่อไปนี้ 1. เสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นจัดสรรกำไรจากกำไรสะสมเพื่อจ่ายเงินปันผล ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท รวมเป็น เงินประมาณ 560 ล้านบาท ทั้งนี้การพิจารณาจ่ายเงินปันผลดังกล่าว อยู่ภายใต้เงื่อนไขการดำเนินการตาม ข้อสัญญาเงินกู้ที่บริษัทฯ ต้องดำเนินการเพื่อให้สามารถจ่ายเงินปันผลได้ โดยคณะกรรมการบริษัทได้ กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล ในวันที่ 22 เมษายน 2552 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2551) โดยวิธีปิดสมุด ทะเบียนพักการโอนหุ้น ในวันที่ 23 เมษายน 2552 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 7 พฤษภาคม 2552 หมายเหตุ - ผู้ถือหุ้นสามัญ (BCP) ประเภทบุคคลธรรมดาสามารถขอเครดิตภาษีเงินปันผลได้ในอัตรา 30/70 ของเงินปันผล ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในมาตรา 47 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร - สำหรับผู้ถือใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหุ้นสามัญ (BCP-DR1) ที่ได้รับเงินปันผลผ่านบริษัท สยามดีอาร์ จำกัดนั้น เงินดังกล่าวถือเป็นเงินเทียบเท่าเงินปันผลที่มิใช่เงินได้ตามมาตรา 40 (4)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น ผู้ที่ได้รับเงินเทียบเท่าเงินปันผลดังกล่าว จึงไม่สามารถขอเครดิตภาษีได้ 2. กำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2552 ในวันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน 2552 เวลา13.30 น. ณ ห้องประชุมใหญ่ สำนักงานใหญ่บริษัท บางจากฯ (มหาชน) เลขที่ 210 ถนนสุขุมวิท 64 พระโขนง กรุงเทพฯ 10260 โดยคณะกรรมการบริษัทกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นและออก เสียงลงคะแนน ในวันที่ 5 มีนาคม 2552 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 แห่งพระราชบัญญัติ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2551) โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น ในวันที่ 6 มีนาคม 2552 3. กำหนดวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2552 ดังนี้ วาระที่ 1 พิจารณารับรองรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2551 วาระที่ 2 รับทราบรายงานของคณะกรรมการเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในรอบปี 2551 วาระที่ 3 พิจารณาอนุมัติงบดุลและบัญชีกำไรขาดทุนสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 และรายงาน ของผู้สอบบัญชี วาระที่ 4 พิจารณาจัดสรรกำไรเพื่อจ่ายเงินปันผล วาระที่ 5 พิจารณาเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ออกตามวาระ โดยในปีนี้มีกรรมการที่ออกจากตำแหน่งตามวาระ 5 ท่านคือ 1) นายชัยอนันต์ สมุทวณิช (กรรมการอิสระ) 2) นายสายัณห์ สตางค์มงคล (กรรมการ) 3) นายอภิสิทธิ์ รุจิเกียรติกำจร (กรรมการผู้แทนจาก บมจ.ปตท.) 4) นายพิชัย ชุณหวชิร (กรรมการผู้แทนจาก บมจ.ปตท.) 5) นายทวารัฐ สูตะบุตร (กรรมการผู้แทนจาก กระทรวงการคลัง) ทั้งนี้ เสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นแต่งตั้งกรรมการที่ออกตามวาระกลับเข้ารับตำแหน่งใหม่จำนวน 3 ท่าน ดังนี้ 1) นายชัยอนันต์ สมุทวณิช (กรรมการอิสระ) 2) นายพิชัย ชุณหวชิร (กรรมการผู้แทนจาก บมจ.ปตท.) 3) นายทวารัฐ สูตะบุตร (กรรมการผู้แทนจาก กระทรวงการคลัง) พร้อมด้วยเสนอแต่งตั้งกรรมการใหม่แทนกรรมการที่ออกตามวาระ จำนวน 2 ท่าน ดังนี้ 1) นายสุรงค์ บูลกุล (กรรมการผู้แทนจาก บมจ.ปตท.) 2) นายธนา พุฒรังษี (กรรมการอิสระ) ดังนั้นคณะกรรมการบริษัท จะประกอบด้วย 1) พลเอกธวัช เกษร์อังกูร (กรรมการอิสระ) 2) นายชัยอนันต์ สมุทวณิช (กรรมการอิสระ) 3) นายอนุสรณ์ ธรรมใจ (กรรมการอิสระ) 4) นายนิพนธ์ สุรพงษ์รักเจริญ (กรรมการอิสระ) 5) นายวิรัตน์ เอี่ยมเอื้อยุทธ (กรรมการอิสระ) 6) นางสาวประนอม โฆวินวิพัฒน์ (กรรมการอิสระ) 7) นายธนา พุฒรังษี (กรรมการอิสระ) 8) นายเทวัญ วิชิตะกุล (กรรมการผู้แทนจาก กระทรวงการคลัง) 9) นายทวารัฐ สูตะบุตร (กรรมการผู้แทนจาก กระทรวงการคลัง) 10) นายพิชัย ชุณหวชิร (กรรมการผู้แทนจาก บมจ.ปตท.) 11) นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ (กรรมการผู้แทนจาก บมจ.ปตท.) 12) นายเทวินทร์ วงศ์วานิช (กรรมการผู้แทนจาก บมจ.ปตท.) 13) นายสุรงค์ บูลกุล (กรรมการผู้แทนจาก บมจ.ปตท.) 14) นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล (กรรมการผู้จัดการใหญ่และเลขานุการคณะกรรมการบริษัท) วาระที่ 6 พิจารณากำหนดค่าตอบแทนกรรมการ นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาปรับปรุงค่าตอบแทนกรรมการในปัจจุบัน ซึ่งเป็นอัตรา เดิมที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นมาตั้งแต่ปี 2547 เป็นดังนี้ 1. ค่าตอบแทนรายเดือนและค่าเบี้ยประชุม คณะกรรมการบริษัท - ค่าตอบแทนรายเดือน ให้ปรับเพิ่มจากเดิมเดือนละ 10,000 บาทต่อคน เป็นเดือนละ 20,000 บาทต่อคน - เบี้ยประชุม ให้ได้รับในอัตราเดิม โดยได้รับครั้งละ 20,000 บาทต่อคน (เฉพาะกรรมการ ที่เข้าประชุม) คณะกรรมการชุดย่อย ให้ได้รับในอัตราเดิมดังนี้ 1) คณะกรรมการตรวจสอบ - ค่าตอบแทนรายเดือน เดือนละ 10,000 บาทต่อคน - เบี้ยประชุม ครั้งละ 5,000 บาทต่อคน (เฉพาะกรรมการที่เข้าประชุม) 2) คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน - ค่าตอบแทนรายเดือน เดือนละ -ไม่มี- - เบี้ยประชุม ครั้งละ 10,000 บาทต่อคน (เฉพาะกรรมการที่เข้าประชุม) 3) สำหรับค่าตอบแทนของคณะกรรมการชุดย่อยอื่นที่คณะกรรมการบริษัทแต่งตั้งขึ้นนั้น กำหนดให้อยู่ในดุลพินิจของคณะกรรมการบริษัทโดยพิจารณาตามความเหมาะสมและ สอดคล้องกับภาระหน้าที่ความรับผิดชอบ ทั้งนี้ประธานกรรมการบริษัท และประธานคณะกรรมการชุดย่อยจะได้รับค่าตอบแทน รายเดือนและค่าเบี้ยประชุมสูงกว่ากรรมการในอัตราร้อยละ 25 รองประธานกรรมการบริษัท จะได้รับค่าตอบแทนรายเดือนและค่าเบี้ยประชุมสูงกว่ากรรมการในอัตราร้อยละ 12.5 2. ค่าตอบแทนที่เป็นโบนัสคณะกรรมการ ให้ปรับจากเดิมร้อยละ 1.5 ของกำไรสุทธิ แต่ไม่เกิน 9,000,000 บาทต่อปีสำหรับกรรมการ ทั้งคณะ เป็นร้อยละ 1 ของกำไรสุทธิ แต่ไม่เกิน 15,000,000 บาทต่อปี สำหรับกรรมการทั้งคณะ ทั้งนี้ประธานกรรมการและรองประธานกรรมการ จะได้รับค่าตอบแทนที่เป็นโบนัสสูงกว่า กรรมการในอัตราร้อยละ 25 และ 12.5 ตามลำดับ วาระที่ 7 พิจารณาแต่งตั้งและกำหนดค่าตอบแทนผู้สอบบัญชี นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นให้แต่งตั้งนายไวโรจน์ จินดามณีพิทักษ์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ทะเบียนเลขที่ 3565 หรือนายวินิจ ศิลามงคล ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ทะเบียนเลขที่ 3378 หรือ นายเจริญ ผู้สัมฤทธิ์เลิศ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ทะเบียนเลขที่ 4068 จาก บริษัท เคพีเอ็มจี ภูมิไชย สอบบัญชี จำกัด เป็นผู้สอบบัญชีของบริษัทฯ โดยกำหนดค่าสอบบัญชีประจำปี 2552 เป็นจำนวนเงินไม่เกิน 1,450,000 บาท (ค่าสอบบัญชีประจำปี 2551 เป็นจำนวนเงิน 1,100,000 บาท) วาระที่ 8 พิจารณาอนุมัติแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของบริษัทฯ นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของบริษัทฯ ในเรื่องการซื้อหุ้นคืน ของบริษัทฯ (Treasury Stock) เพื่อมอบอำนาจให้คณะกรรมการมีอำนาจตัดสินใจในการซื้อหุ้น คืนที่ไม่เกินร้อยละ 10 ของทุนชำระแล้วได้ โดยขอแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของบริษัทฯ ในหมวดที่ 2 การออกหุ้น ข้อ 4 เป็นดังนี้ " ข้อ 4 หุ้นของบริษัทเป็นหุ้นสามัญและเป็นหุ้นชนิดระบุชื่อผู้ถือหุ้น ข้อ 4/1 บริษัทอาจซื้อหุ้นคืนและทำการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน ถ้าไม่จำหน่ายหรือจำหน่าย ไม่หมดภายในเวลาที่กำหนด ให้บริษัทลดทุนที่ชำระแล้วโดยวิธีตัดหุ้นจดทะเบียน ส่วนที่จำหน่ายไม่ได้ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัด หรือกฎหมายอื่นแล้วแต่กรณี ข้อ 4/2 ในการซื้อหุ้นคืนตามข้อ 4/1 ให้สามารถทำได้โดยต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น เว้นแต่เป็นการซื้อหุ้นคืนในจำนวนไม่เกินกว่าร้อยละ 10 ของทุนชำระแล้ว ให้คณะกรรมการมีอำนาจในการอนุมัติการซื้อหุ้นคืนได้ " วาระที่ 9 เรื่องอื่นๆ (ถ้ามี) จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ (นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล) กรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักเลขานุการคณะกรรมการบริษัท โทรศัพท์ 0-2335-4584