ส่งงบการเงินสอบทานแล้ว และชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 49

ที่ 1000 / 202 / 2549 15 สิงหาคม 2549 เรื่อง นำส่งงบการเงินสอบทานแล้ว และชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2549 เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. งบการเงินสอบทานแล้วไตรมาส 2 ปี 2549 ฉบับภาษาไทย 1 ฉบับ 2. งบการเงินสอบทานแล้วไตรมาส 2 ปี 2549 ฉบับภาษาอังกฤษ 1 ฉบับ ตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการจัดทำและส่งงบการเงินและรายงาน เกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน พ.ศ. 2544 ที่กำหนดให้บริษัท จดทะเบียนจัดทำและส่งงบการเงินรายไตรมาสที่ผู้สอบบัญชีได้สอบทานแล้ว โดยให้จัดส่งภายใน 45 วัน นับแต่วันสุดท้ายของแต่ละไตรมาสนั้น บริษัทฯ ใคร่ขอนำส่งงบการเงินสำหรับไตรมาส 2 ปี 2549 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2549 ที่ผู้สอบบัญชีได้สอบทานแล้ว และขอชี้แจงผลการดำเนินงานดังนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวม 24,948 ล้านบาท มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) 827 ล้านบาท มีดอกเบี้ยจ่ายสุทธิ (หักลบดอกเบี้ยรับ) 161 ล้านบาท มีค่าเสื่อมราคาและ ค่าตัดจำหน่าย 204 ล้านบาท และภาษีเงินได้ 150 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิ 296 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2548 บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิ 1,317 ล้านบาท เนื่องจากในปี 2548 บริษัทฯ มีกำไรจากสต๊อกน้ำมันสูงถึง 967 ล้านบาท ในขณะที่ในปี 2549 นี้มีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน อยู่ 227 ล้านบาท อีกทั้งในปี 2548 บริษัทยังคงมีผลขาดทุนสะสมทางภาษียกมา จึงทำให้ไม่มีภาระภาษีที่ ต้องจ่าย ผลการดำเนินงานดังกล่าวมีสาเหตุมาจากปัจจัยดังต่อไปนี้ 1) บริษัทฯ มีค่าการกลั่น (ไม่รวมกำไรจากสต๊อกน้ำมัน) 4.53 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาเรล สูงกว่า ช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ระดับ 3.28 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาเรล ทั้งนี้เป็นผลจากค่าการกลั่น พื้นฐานที่ปรับตัวดีขึ้นจาก 2.85 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาเรล มาอยู่ที่ระดับ 3.45 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาเรล ภายใต้สถานการณ์ความตึงเครียดของประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก โดยเฉพาะความขัดแย้งของประเทศอิหร่านกับชาติตะวันตกในเรื่องของการทดลองพลังงาน นิวเคลียร์ รวมถึงความต้องการใช้น้ำมันที่จะเพิ่มขึ้นในช่วง Driving Season และการเข้ามา ซื้อขายของ Hedge Fund ซึ่งเป็นแรงหนุนให้ราคาน้ำมันยังคงอยู่ในระดับที่สูงขึ้นต่อไป ส่งผล ให้ระดับราคาน้ำมันสำเร็จรูปเฉลี่ยเมื่อเทียบกับราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยในไตรมาสนี้ปรับตัวสูงขึ้น ในไตรมาสนี้บริษัทฯ ยังคงมีการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงเพื่อป้องกันความผันผวนจาก ราคาน้ำมันไว้ส่วนหนึ่ง ทำให้มีกำไรจากสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันล่วงหน้า ดังกล่าวจำนวน 0.82 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาเรล คิดเป็น จำนวน 197 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน 0.95 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาเรล หรือคิดเป็น จำนวน 227 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ระดับ 3.70 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาเรล คิดเป็น 967 ล้านบาท ดังนั้นในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีค่าการกลั่นรวมอยู่ที่ระดับ 5.48 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาเรล โดยการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ระดับ 54 พันบาเรลต่อวัน ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ระดับ 65 พันบาเรลต่อวัน สาเหตุหลักมาจากการส่ง น้ำมันเตาไปเพิ่มมูลค่าที่โรงกลั่นไทยออยล์ทำได้จำกัด จึงทำให้ต้องลดปริมาณการผลิตลง เพื่อลดปริมาณผลผลิตน้ำมันเตา 2) บริษัทฯ มีค่าการตลาด(ไม่รวมน้ำมันเครื่อง) อยู่ที่ระดับ -12 สตางค์ต่อลิตร ต่ำกว่าช่วง เดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ระดับ 47 สตางค์ต่อลิตร ทั้งนี้เป็นผลมาจากราคาน้ำมันสำเร็จรูป ในตลาดสิงคโปร์ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล ซึ่งทำให้บริษัทฯ มีต้นทุนขายที่สูงขึ้นแต่ไม่สามารถปรับราคาขายหน้าสถานีบริการน้ำมันได้ทัน จึงทำให้ในตลาด ค้าปลีกมีค่าการตลาด -37 สตางค์ต่อลิตร อย่างไรก็ดีบริษัทฯ ยังคงรักษากำไรในตลาด อุตสาหกรรมไว้ได้ โดยมีค่าการตลาดอยู่ที่ 50 สตางค์ต่อลิตร (หน่วย : ล้านบาท) ไตรมาส 2 ปี 49 (A) ไตรมาส 2 ปี 48 (B) เพิ่ม + / ลด - (สอบทานแล้ว) (สอบทานแล้ว) (A) - (B) * EBITDA +827 +1,647 -820 - โรงกลั่น +1,059 +1,561 -502 - ตลาด -232 +86 -318 * หัก กำไรจากสต๊อกน้ำมัน +227 +967 -740 * Adjusted EBITDA +600 +680 -80 - โรงกลั่น +832 +594 +238 - ตลาด -232 +86 -318 3) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร จำนวน 390 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14 ล้านบาท สาเหตุหลัก เนื่องมาจากค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน ของปีก่อน 4) บริษัทฯ มีดอกเบี้ยจ่ายสุทธิ 161 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4 ล้านบาท เป็นผลมาจากดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น 25 ล้านบาทจากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงขึ้น ประมาณ 1.0% ต่อปี ทั้งนี้บริษัทฯ มีรายได้จากดอกเบี้ยรับเพิ่มขึ้นจำนวน 21 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ มีการนำเงินส่วนหนึ่งที่ได้รับจากการเพิ่มทุนโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน (PQI) ไปลงทุนประมาณ 3,700 ล้านบาท 5) งบดุลและอัตราส่วนทางการเงิน สรุปได้ดังนี้ ณ 30 มิ.ย.49 ณ 31 ธ.ค.48 (หน่วย : ล้านบาท) (สอบทานแล้ว) (ตรวจสอบแล้ว) * สินทรัพย์รวม 41,841 34,164 * หนี้สินรวม 22,349 21,294 * ส่วนของผู้ถือหุ้น 19,492 12,870 * สัดส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น, เท่า 1/ 0.72 1.05 * มูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น, บาท 17.42 18.72 หมายเหตุ 1/ คิดเฉพาะหนี้สินในส่วนที่มีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย (Interest Bearing Debt) จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ -ลงนามแล้ว- (นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล) กรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักแผนกิจการและนักลงทุนสัมพันธ์ โทร. 0 -2335-4583